คลัง เผยไทยดำเนินการตามแผน AEC Blueprint 87.1% คืบหน้ากว่าอาเซียน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 29, 2015 15:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่า ในการสัมมนายุทธศาสตร์กระทรวงการคลังด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับประชาคมอาเซียนว่า ความคืบหน้าในการดำเนินการตามกรอบแผนการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community Blueprint: AEC Blueprint) เป็นที่น่ายินดีว่า ประเทศไทยได้มีการดำเนินการตาม Scorecard ของ AEC Blueprint ไปแล้วถึง 87.1% ซึ่งสูงกว่าอาเซียนในภาพรวมที่ดำเนินการได้ 77.7 %

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้เริ่มยกร่างยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ตั้งแต่ปลายปี 2554 โดยได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงร่างยุทธศาสตร์ฯ ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ และบรรจุโครงการ/กิจกรรมที่สนับสนุนการดำเนินการตามร่างยุทธศาสตร์ฯ พร้อมทั้งได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรมดังกล่าวแบบคู่ขนานไปกับการปรับปรุงร่างยุทธศาสตร์ฯ ตั้งแต่ปลายปี 2555 อย่างต่อเนื่องตามกรอบระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้

ก้าวต่อไปของประเทศไทยหลังจากปี 2558 ประเทศไทยจำเป็นต้องรักษาความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพในด้านต่าง ๆ ให้ทันสมัยและดียิ่งขึ้นเพื่อให้ประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน และสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในประชาคมอาเซียนได้ โดยหลักการสำคัญที่นำไปใช้ คือ หลัก “2 S” ซึ่งได้แก่ Sufficiency -การดูแลตัวเองให้พร้อม และ Synergy –การเกื้อกูล ผนึกกำลังในกลุ่มประเทศสมาชิกเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย

สำหรับยุทธศาสตร์กระทรวงการคลัง ด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ซึ่งมุ่งเน้น (1) การอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจให้แก่ภาคเอกชน (2) การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภาคการเงินการคลัง (3) การเชื่อมโยงภาคการเงินการคลังกับประเทศอื่นๆ และ (4) การให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์จากประชาคมอาเซียน โดยให้มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนที่เป็นการดำเนินการตามแผนการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community Blueprint: AEC Blueprint) และการดำเนินการภายในเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และนำไปกำหนดเป็นกลยุทธ์ มาตราการ โดยมีโครงการรองรับที่เหมาะสม กำหนดหน่วยงานผู้รับผิดชอบ และกำหนดเวลาดำเนินการที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามความคืบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในมุมมองของภาคเอกชน การค้าการลงทุนที่ชายแดนมีการเติบโตอย่างสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการที่ประเทศไทยจะเป็น ASEAN Sourcing เพื่อเป็นแหล่งวัตุดิบให้กับประเทศต่างๆ ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็สามารถนำเข้าวัตุดิบจากต่างประเทศด้วย เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ