ในระหว่างนี้จะผ่อนผันให้มีการรับซื้อผลปาล์มสดที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำกว่า 17% ได้ โดยเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 16% ต้องซื้อที่ กก.ละ 3.75 บาท และ 15% ที่ กก.ละ 3.50 บาท ซึ่งจะผ่อนผันเป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นจะกำหนดให้รับซื้อผลปาล์มสดที่ 17% หรือสูงกว่าเพียงอย่างเดียว โดยจะออกประกาศ กกร.กำหนดราคารับซื้อต่อไป และจะถือเป็นกฎหมาย ใครจะไม่ทำไม่ได้ จะมีโทษตามที่กำหนด
"ช่วงเปลี่ยนผ่านจะผ่อนผันให้เกษตรกรขายผลปาล์มสดที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำกว่า 17% ได้อีก 3 เดือน ถ้าพ้น 3 เดือนไปแล้วโรงงานสกัด-โรงกลั่นจะซื้อผลปาล์มสดที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำกว่า 17% ไม่ได้ ใครซื้อผิดกฎหมายมีโทษ ส่วนเกษตรกรเอามาขายก็จะขายไม่ได้ เพราะไม่มีใครซื้อ"พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
สำหรับการกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้รับความเห็นชอบทั้งจากตัวแทนเกษตรกร โรงงานสกัด และโรงกลั่น เพราะเป็นแนวทางการยกระดับราคาแบบยั่งยืน โดยใช้เกณฑ์คุณภาพเป็นตัวผลักดันราคาให้สูงขึ้น ซึ่งเกษตรกร ยืนยันว่าปัจจุบันการปลูกปาล์มสามารถได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันเกิน 17% อยู่แล้ว หากรอให้สุกดีและไม่ตัดก่อนกำหนด
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า(อคส.) ช่วยรับซื้อผลปาล์มสดที่ กก.ละ 4 บาท เพื่อให้มีผู้ซื้อในตลาดเพิ่มขึ้น และช่วยดึงราคาให้สูงขึ้น ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มขวดเพื่อการบริโภค ขณะนี้ยังกำหนดราคาเพดานไว้ที่ขวดลิตรละ 42 บาท แต่ราคาขายในตลาดขณะนี้ส่วนใหญ่ต่ำกว่าราคาที่กำหนด