นอกจากนี้ยังสั่งการให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จัดตั้งกลไก กำกับ ดูแลผลกระทบด้านความมั่นคง และหากกรณีมีความจำเป็นต้องก่อสร้างหรือดำเนินกิจกรรมใด ๆ บริเวณชายแดน ให้ประสานกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนดำเนินการ
"การเปิดจุดผ่อนผันพิเศษ และออกแนวทางกำกับดูแลในครั้งนี้ เป็นความคืบหน้าต่อเนื่องจากการประชุม ครม. สัญจรที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งแม้พื้นที่ดังกล่าวยังมีปัญหาในประเด็นการปักปันเขตแดน แต่ท่านนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการให้นำเรื่องนี้มาเป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการค้า การลงทุน และสร้างโอกาสในกาสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน"
ทั้งนี้ ด่านสิงขร มีชายแดนติดกับ จ.มะริดของประเทศเมียนมาร์ มีทิศทางการเติบโตของการค้าชายแดนดี ประกอบกับได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจทั้งไทย และเมียนมาที่จะพัฒนาและลงทุนร่วมกัน แต่ที่ผ่านมาติดขัดปัญหายังไม่สามารถเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรได้ ซึ่งการที่พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เยือนเมียนมาร์อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 9-10 ตุลาคม 2557 มีการหารือร่วมกับผู้นำเมียรมาร์ จึงมีความเห็นตรงกันที่จะยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าดังกล่าว เป็นจุดผ่านแดนถาวร สามารถค้าขายระหว่างกันได้โดยเร็ว โดยไม่นำเรื่องเขตแดนเป็นอุปสรรคในการดำเนินการ
“รัฐบาลมีความเชื่อว่าหลังจากเปิดจุดผ่อนการค้าดังกล่าวแล้ว จะผลักให้มูลค่าการค้าชายแดนในพื้นที่บริเวณนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด อำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจทั้งไทย และเมียนมาร์ได้มากขึ้น โดยคนเมียนมาร์สามารถเดินทางเข้ามาได้ถึงตัวอ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เอกสารที่ใช้คือ หนังสือเดินทาง บัตรผ่านแดน บัตรผ่านแดนชั่วคราว ซึ่งสามารถพำนักอยู่ในเมืองไทยได้ 1 คืน"