“ไทยมีความแข็งแกร่งในการผลิตอุปโภคบริโภค(Consumer products) และเป็นแหล่งผลิตสินค้าที่เป็นที่นิยมมากในตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนม่าร์และเวียดนาม) จะเห็นได้จากการค้าชายแดน มีสินค้าไทยจำหน่ายได้ดีเป็นจำนวนมาก และไทยมีแบรนด์เนมเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง มีเทคโนโลยีการพิมพ์ขั้นสูง เทียบเท่ากับประเทศเจริญแล้ว ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) และยังเป็นศูนย์กลางการพิมพ์บนกระดาษต่อเนื่องมาหลายปี จากกรณีที่ยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจนี้ได้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย"นางนันทวัลย์ กล่าว
แนวโน้มธุรกิจบริการการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์นั้น ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่แตกต่างไปจากเดิม คนส่วนใหญ่หันไปซื้อสินค้าเพื่อใช้เองจากร้านสะดวกซื้อ หรือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต พฤติกรรมการบริโภคอาหารเปลี่ยนไปเป็นการบริโภคอาหารปรุงสำเร็จ หรืออาหารแช่แข็งมากขึ้น ทำให้ทุกอุตสาหกรรมต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และรูปแบบการนำเสนอให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ดังนั้นกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก จะเน้นความต้องการของตลาดเป็นที่ตั้ง กับการให้ความสำคัญกับการค้าชายแดน
“ภาคเอกชนต้องการให้ ภาครัฐสนับสนุนให้ SMEs สามารถพัฒนาคุณภาพสินค้าและบรรจุภัณฑ์ให้สามารถส่งไปจำหน่ายในที่ห่างไกล และยังคงคุณภาพของสินค้าดีอยู่ ซึ่งจะสามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกในเขตชายแดนได้ เพื่อทดแทนตลาดใหญ่ๆ ที่มูลค่าลดลง เนื่องจากมูลค่าการค้าชายแดนยังคงเติบโตขึ้น 5 – 6% ทุกปีอย่างสม่ำเสมอ " นางนันทวัลย์ กล่าว
พร้อมระบุว่า การเพิ่มมูลค่าส่งออกนั้น หากภาคเอกชนควรศึกษาแนวโน้มตลาดของลูกค้า เช่น ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)และสหรัฐฯจะให้ความสำคัญกับวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ผลิตภัณฑ์สีเขียว , ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์อาหารควรใช้วัสดุตามมาตรฐานอาหารปลอดภัย (Food safety) เพื่อสุขอนามัยที่ดี ทำให้สามารถเก็บรักษาอาหารได้นาน ตลอดระยะเวลาขนส่งจนถึงมือผู้บริโภค
สำหรับภาพรวมธุรกิจบริการการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์นั้น เป็นตัวสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ มากมาย อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและยา เป็นต้น คลัสเตอร์การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์แบ่งออกเป็น 4 ประเภทตามชนิดของวัสดุ คือ กระดาษ แก้ว พลาสติก และโลหะ ซึ่งมูลค่าส่งออกทางอ้อม(Indirect Export) เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 3% ของมูลค่าตลาดรวม มูลค่าการส่งออกกลุ่มธุรกิจนี้ เห็นได้ชัดเจนจากการส่งออกของกลุ่มหนังสือและสิ่งพิมพ์ โดยในปี 57 มีการส่งออก 2,563 ล้านบาท เฉพาะไตรมาสแรก(ม.ค.– มี.ค.)ปี 58 มีมูลค่า 194.37 ล้านบาท ลดลง 8.2%