ทั้งนี้ จะมีการปรับโครงสร้าง บพ.โดยแยกงานออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. คณะกรรมการค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือ ผู้รอดชีวิต (National Search and Rescue) และคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน (Accident and Incident investigations) โดยยกระดับจากเดิมที่อยู่ภายใต้สำนักมาตรฐานการบินของ บพ. ขึ้นมาอยู่ในระดับกระทรวง เพื่อแยกดำเนินการที่ชัดเจนและมีความเป็นกลาง
2. งานด้านนโยบาย (Policy) และด้านกำกับดูแล (Regulator) จะจัดตั้งเป็นสำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติ ทำหน้าที่ในด้านการบริหาร ด้านมาตรฐานการบิน มาตรฐานสนามบินการออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศ (AOL) และใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (AOC) งานด้านความปลอดภัย และด้านเทคโนโลยีต่างๆ โดยเป็นองค์กรอิสระ มีคณะกรรมการที่มาจากการแต่งตั้ง ส่วนผู้อำนวยการคนแรกจะมาจากการแต่งตั้งเพื่อความรวดเร็ว จากนั้นจะใช้วิธีสรรหา หลักเกณฑ์เบื้องต้น อายุไม่เกิน 65 ปี วาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี ซึ่งจะต้องมีการร่างกฎหมายขึ้นมารองรับ โดยกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้เสนอชื่อคณะกรรมการ ขอรับจัดสรรงบประมาณ จากคณะรัฐมนตรี (ครม.)
3. ด้านปฎิบัติการ จัดตั้งกรมการท่าอากาศยาน ทำหน้าที่ดูแลบริหาร สนามบินในความรับผิดชอบของบพ.จำนวน 28 แห่ง โดยยังคงเป็นหน่วยงานราชการ มีอธิบดี 1 คน รองอธิบดี 2 คน โดยรับผิดชอบการพัฒนาสนามบิน วางแผน ก่อสร้าง บริหาร ดำเนินการเพื่อให้การให้บริการผู้โดยสารได้อย่างมีมาตรฐานปลอดภัย โดยจะเพิ่มเติมในส่วนของงานด้านเทคนิค ด้านสำรวจออกแบบ ระบบให้บริการที่ปลอดภัยทันสมัย และด้านไอที เป็นต้น ส่วนแผนปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง (Corrective Action Plan : CAP) ฉบับใหม่จะเสร็จในวันที่ 10 พ.ค.นี้