ล่าสุดวานนี้ (6 พ.ค) เงินบาทปิดตลาดที่ 33.32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลง 0.25% และการออกมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ขณะเดียวกัน มีรายงานล่าสุดว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปในปีนี้ จาก 1.7% เป็น 1.8% หลังมีมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินผ่านมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าของไทยไปยังตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งไทยมีการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหภาพยุโรปในสัดส่วน 9% ของการส่งออกทั้งหมด ซึ่งการที่สหภาพยุโรปมีจีดีพีขยายตัวขึ้นจะทำให้มีความต้องการซื้อสินค้าเพิ่ม และจะทำให้สินค้าส่งออกของไทยได้รับอานิสงค์ด้วย รวมทั้งได้สะท้อนมุมมองของผู้ส่งออกที่ต้องการให้เงินบาทอ่อนค่าลงและมีเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถกำหนดต้นทุนได้ชัดเจน