ครม.ไฟเขียวสร้างบ่อฝังกลบ-โรงไฟฟ้าขยะที่อยุธยา ชูต้นแบบจัดการขยะครบวงจร

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 13, 2015 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสถานที่กำจัดขยะ จ.พระนครศรีอยุธยา ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยการดำเนินการก่อสร้างแบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ 1. การก่อสร้างบ่อฝังกลบขยะ โดยใช้พื้นที่ของที่ราชพัสดุจำนวน 372 ไร่ 2 งาน 29 ตารางวา ที่ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการสำรวจออกแบบ ก่อสร้างสถานที่ฝังกลบ และจัดจ้างบริษัทเอกชนมาก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีการขนย้ายขยะมูลฝอยจากสถานที่ฝังกลบตำบลบ้านป้อม จำนวน 200,000 ตัน มาฝังกลบที่ตำบลมหาพราหมณ์ พร้อมทั้งจัดภูมิทัศน์สถานที่ฝังกลบบ้านป้อมให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2558 นี้ ด้วยกรอบวงเงินดำเนินการ 369 ล้านบาท

2.การก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะเทศบาลพระนครศรีอยุธยา โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ได้จ้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีศึกษาออกแบบ และจ้างบริษัทเอกชนก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า 2 ลักษณะ โดยงบประมาณของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย การก่อสร้างระบบกำจัดขยะด้วยเทคโนโลยีขยะเชื้อเพลิง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมกราคม 2559 วงเงินดำเนินการ 380 ล้านบาท และการก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าจากการกำจัดขยะด้วยเทคโนโลยีการเผา เพื่อผลิตไฟฟ้าขนาด 3,800 กิโลวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2560 วงเงินดำเนินการ 635 ล้านบาท

“เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นจังหวัดที่มีปัญหาขยะขั้นวิกฤต ดั้งนั้นการดำเนินการโครงการก่อสร้างสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยนี้ จะถือเป็น “ต้นแบบ" ที่ดีในการจัดการขยะอย่างครบวงจร มีประสิทธิภาพ และการกำหนดพื้นที่ที่มีศักยภาพทั่วประเทศ ที่สามารถจัดทำเป็นสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย เป็นศูนย์กลางในการแปรรูปขยะเป็นพลังงานได้"

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำการสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมในการก่อสร้างโรงกำจัดขยะมูลฝอย โดยพิจารณาจากปริมาณขยะที่เกิดขึ้นต่อวัน ขนาดพื้นที่ในการจัดการขยะ ระยะห่างจากเสาไฟฟ้าแรงสูง และผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ พบว่ามีจำนวน 24 จังหวัด ที่มีพื้นที่ศักยภาพเพียงพอสำหรับใช้เป็นศูนย์ในการแปรรูปขยะเป็นพลังงาน ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี อุดรธานี บุรีรัมย์ สงขลา ภูเก็ต กระบี่ นครราชสีมา ขอนแก่น สุรินทร์ มหาสารคาม เลย ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ยะลา เชียงใหม่ นครพนม และพัทลุง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานขยะที่เปิดดำเนินการแล้ว 2 แห่ง คือ จังหวัดภูเก็ตกับสงขลา อยู่ในระหว่างก่อสร้าง 3 แห่ง คือ กรุงเทพฯ ขอนแก่น และพัทลุง ลงนามข้อตกลงก่อสร้างแล้ว 3 แห่ง คือ อยุธยา พิษณุโลก และระยอง และอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้อีก 1 แห่ง คือ ที่ลำพูน โดยรัฐบาลมีเป้าหมายที่ผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะให้ได้ไม่ต่ำกว่า 15 โรงภายในปี 2558 เป็นไปตามโรดแมพของการจัดการขยะมูลฝอยของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ