สำหรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีหลักการสำคัญ คือ แก้ไขเพิ่มเติมให้นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในอัตราไม่ต่ำกว่าเงินสะสมของลูกจ้าง เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกจ้างสามารถจ่ายเงินสะสมในอัตราที่สูงขึ้นได้ โดยที่นายจ้างไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้น
ประการต่อมา กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกประกาศให้ลูกจ้างหรือนายจ้างหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินสะสมหรือเงินสมทบเข้ากองทุนสำรรองเลี้ยงชีพเป็นการชั่วคราวได้ ในกรณีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจสาธารณภัย หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ประการถัดมาแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการนำเงินสะสมและเงินสมทบไปลงทุนหรือหาผลประโยชน์สำหรับลูกจ้างที่ไม่ได้แสดงเจตนาเลือกนโยบายการลงทุน
นอกจากนี้ แก้ไขเพิ่มเติมวิธีการบันทึกรายได้ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ในกองทุนหลายนายจ้าง, แก้ไขเพิ่มเติมให้ลูกจ้างที่สิ้นสมาชิกภาพเพราะออกจากงานเมื่อมีอายุไม่ต่ำว่า 55 ปีบริบูรณ์ สามารถขอรับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นงวดได้, เพิ่มการกำหนดให้ลูกจ้างที่สิ้นสมาชิกภาพสามารถโอนเงินจากองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปยังกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหรือกองทุนอื่นที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีการออกจากงานหรือการชราภาพได้ และ แก้ไขเพิ่มเติมกรณีการจ่ายเงินกองทุนให้แก่ลูกจ้างและกำหนดโทษผู้จัดการกองทุนในกรณีไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด