ทั้งนี้สาเหตุหลักมาจากภาษีนิติบุคคล และการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าที่คาดว่าการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าจะฉุดรายได้ประมาณ 1 แสนล้านบาท ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และอากรแสตมป์ มีแนวโน้มดีเข้ามาเสริม
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในวันนี้กรมสรรพากรได้จัดสัมมนาสรรพากรภาค สรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศ กลางปีงบประมาณ 58 เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพแผนงานการจัดเก็บรายได้ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 58 แม้ที่ผ่านมาจะจัดเก็บต่ำกว่าเป้า
นอกจากนี้ ในวันที่ 26 พ.ค. กรมสรรพากรจะหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีเดี่ยว เพื่อให้ง่ายต่อการยื่นภาษีและตรวจสอบ โดยมีสิทธิประโยชน์ คือ ไม่ต้องตรวจสอบภาษีย้อนหลัง และสามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยถูกลงด้วย
"ยอมรับว่าภาษีนิติบุคคลปีนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยในส่วนการยื่นภาษีนิติบุคคล ช่วงพ.ค.-มิ.ย. จากผลประกอบการปี 57 ซึ่งเป็นปีที่มีผลกระทบจากปัญหาการเมือง และมีการตั้งรัฐบาลใหม่ ทำให้ผลประกอบการในช่วงดังกล่าวต่ำกว่าเป้าหมายแน่นอน แต่ไม่น่าต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ ขณะที่ในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. เป็นการยื่นภาษีนิติบุคคลกลางปี เบื้องต้นคาดว่า สถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะเศรษฐกิจปีนี้ดีกว่าปีก่อน แต่ยังคาดว่ายังต่ำกว่าเป้าหมายแน่นอน" อธิบดีกรมสรรพากรระบุ
นายประสงค์ กล่าวถึงกรณีมีข้อเสนอเพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีรายจ่ายจากการท่องเที่ยวเป็น 3 หมื่นบาทต่อปีว่า เรื่องนี้คงต้องไปพิจารณาอีกที เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ให้สามารถนำใบเสร็จรับเงินที่ใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี เพราะรัฐบาลต้องการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น ต้องดูรายละเอียดให้ดีอีกครั้งว่าถ้าเพิ่มลดหย่อน จะตรงต่อความต้องการหรือไม่ และเกิดประโยชน์ยมากน้อยแค่ไหน
สำหรับข้าราชการกระทรวงการคลังที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการทุจริตนั้น นายประสงค์ กล่าวว่า ในส่วนของกรมสรรพากรอยู่ระหว่างการสอบทุจริตของข้าราชการ จำนวน 14 คน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนมิ.ย.นี้ โดยกระบวนการทั้งหมดจะเดินหน้าไปตามกฎหมายหากพบว่าข้าราชการมีความผิดจริงก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่