ส่วนกรณีที่คณะกรรมการ(บอร์ด)การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้เสนอปรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ช่วงจากศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เป็นพระราม 9 - มีนบุรีนั้น เบื้องต้นเห็นว่าการปรับแนวเส้นทางดังกล่าวเป็นการปรับเปลี่ยนสาระสำคัญในแผนแม่บทรถไฟฟ้า ดังนั้นจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) ให้พิจารณาว่าจะเห็นชอบตามที่รฟม.เสนอหรือไม่
รมว.คมนาคม กล่าวว่า การปรับเส้นทางใหม่นั้น ยอมรับว่ามีความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งหลักการของแผนแม่บทรถไฟฟ้านั้น ได้ศึกษาตามความเหมาะสมและประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยมีการลงทุนก่อสร้างอุโมงค์ใต้สถานีศูนย์วัฒนธรรมของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินไว้สำหรับเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มแล้ว รวมถึงการใช้ศูนย์ซ่อมบำรุงห้วยขวางร่วมกัน อีกทั้งแนวเส้นทางเดิมตัดผ่านชุมชนและผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นแนวเส้นทางที่เกิดประโยชน์สูงสุด
ส่วนประเด็นค่าก่อสร้างแนวเส้นทางใหม่ถูกกว่าแนวเดิมตามแผนแม่บทนั้น เป็นไปตามหลักเมื่อระยะทางสั้นลงค่าก่อสร้างต้องถูกลง ซึ่งหากคจร.ไม่เห็นด้วยกับการปรับแนวเส้นทางรฟม.จะต้องใช้แนวเดิมซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที เพราะมีแบบและผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว
สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา หรือโมโนเรลนั้น รมว.คมนาคม คาดว่าจะสรุปรายละเอียดหลังจากที่ได้มีการปรับรูปแบบการลงทุนเป็น PPP ตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 เสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการได้ในเดือนมิ.ย.นี้ พร้อมยอมรับว่าโครงการรถไฟฟ้าได้มีการปรับแผนงานจากเดิมปรับจากเดิมที่จะเสนอครม.ขออนุมัติในเดือนม.ค.เป็นเดือน มี.ค. โดยล่าสุดปรับจากเดือนมี.ค.เป็นเดือนมิ.ย. เนื่องจากมีการทบทวนในบางเรื่องเพื่อความรอบคอบ