โดยกระทรวงพาณิชย์ต้องการแสดงศักยภาพให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตและส่งออกข้าวคุณภาพดีของโลก รวมถึงตอกย้ำความเชื่อมั่นข้าวไทยให้กับผู้ค้า นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการมหัศจรรย์ข้าวไทยพันธุ์ 4 ภาค รวมถึงการแสดงกระบวนการผลิตข้าวไทยที่มีคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำจนถึงปลายน้ำ
ในการนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวปาถกฐาพิเศษหัวข้อ "ยุทธศาสตร์ด้านการตลาดข้าวและนโยบายการค้าข้าวของไทย" ว่า ข้าวไทยถือเป็นหนึ่งในความภูมิใจของคนไทยสร้างชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก โดยนายกฯ วางยุทธศาสตร์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว ซึ่งเน้น 3 ประเด็นหลักคือ 1.การค้าข้าวในตลาดโลกและบทบาทของประเทศไทย 2.โครงสร้างอุปสงค์ข้าวไทยและ 3.แผนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาข้าวไทย โดยจะต้องให้ไทยเป็นผู้นำค้าข้าวตลาดโลก และต้องทำงานร่วมกันทั้งภาคการผลิต ภาคการตลาด แต่ในระยะสั้นจะมีการจัดการผลผลิตให้เหมาะสม ลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง ส่วนระยะยาวเน้นประสิทธิภาพ ความต้องการของตลาด ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ถ้าทำได้เช่นนี้เชื่อว่าในปี 2021 จะผลิตข้าวมากขึ้นร้อยละ 25 อีกทั้งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตข้าวต่อตันได้อย่างน้อยร้อยละ20
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงการแสวงหาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการเพิ่มมูลค่าข้าว ซี่งปีที่ผ่านมามีการส่งออกข้าว กว่า 10.97 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า ถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ปัจจุบันเจอความผันผวนและอุปสรรคจากภัยธรรมชาติที่ส่งผลต่อการผลิตก็ตาม แต่จากปัจจัยดังกล่าวจึงต้องหาทางว่าจะทำอย่างไรที่จะส่งออกข้าวคุณภาพไปทั่วโลกมากกว่าจะมุ่งส่งออกข้าวจำนวนมากๆ โดยจัดลำดับตลาดข้าว ทั้งระดับพรีเมี่ยม ระดับกลาง และระดับล่าง
ส่วนแนวโน้มข้าวไทย ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงอาหารหลักของคนไทย แต่ยังบ่งบอกถึงวิถีชีวิต ดั้งเดิมของคนไทย จึงอยากให้สร้างประวัติศาสตร์ของข้าวไทยให้คนรู้คุณค่าความสำคัญของข้าวไทยอันจะเป็นการเพิ่มมูลค่าข้าวไทย ตลอดจนหามาตรการลดความเสี่ยงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งการวิจัยพัฒนาที่ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้
"ฝากผู้ประกอบการให้ดูแลชาวนาด้วย อย่ามุ่งหวังเพียงกำไรเท่านั้น ขณะเดียวกัน จะต้องมีการตรวจสอบประสิทธิภาพโรงสีข้าวทั้งหมด เพื่อให้มีคุณภาพประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้าว และอย่าให้มีการเอาเปรียบชาวนา ซึ่งสั่งการให้มีการดำเนินการเร็วๆนี้" นายกรัฐมนตรี กล่าว