ครม.อนุมัติให้ กทท.ลงทุน 1.8 พันลบ.สร้างท่าเทียบเรือชายฝั่งแหลมฉบัง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 26, 2015 15:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติ ตามที่กระทรวงคมนาคม(คค.) เสนอให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) ดำเนินโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง(ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดย กทท.เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือยกขนหลักทั้งหมด รวมถึงบริหารและประกอบการโดยใช้งบประมาณลงทุนรวม 1,864.19 ล้านบาท

พร้อมทั้งอนุมัติกรอบอัตราค่าภาระขั้นต่ำ-ขั้นสูงในอัตรา 1,545 บาท และ 3,180 บาท ตามลำดับ โดยอัตราค่าภาระขั้นต่ำ 1,545 บาท ประกอบด้วย อัตราค่าภาระยกขนตู้สินค้าในอัตราขั้นต่ำ 715 บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ และอัตราค่าธรรมเนียมเคลื่อนย้ายตู้สินค้าระหว่างท่าในอัตราขั้นต่ำ 830 บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ ส่วนอัตราค่าภาระขั้นสูง 3,180 บาท ประกอบด้วย อัตราค่าภาระยกขนตู้สินค้าในอัตราขั้นสูง 2,010 บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพและอัตราค่าธรรมเนียมเคลื่อนย้ายตู้สินค้าระหว่างท่าในอัตราขั้นสูง 1,170 บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ โดยใช้อัตราค่าภาระขั้นต่ำที่กำหนด(1,545 บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ) เป็นอัตราค่าภาระเมื่อเริ่มดำเนินการ และให้ กทท. สามารถปรับลดอัตราค่าภาระในการให้บริการลงได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของอัตราค่าภาระขั้นต่ำที่กำหนด

สำหรับโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง(ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบังของ กทท.จะให้บริการท่าเรือชายฝั่งเป็นการเฉพาะ โดย กทท.จะดำเนินการก่อสร้างท่าเทียบเรือที่มีลักษณะหน้าท่าเป็นรูปตัว L ความกว้าง 30 เมตร ความยาวหน้าท่า 120 เมตร และ 125 เมตร ขนาดของแอ่งจอดเรือเท่ากับ 115 x 120 เมตร ความลึก 10 เมตร (MSL) สามารถรองรับเรือชายฝั่งขนาดระวางบรรทุก 3,000 เดทเวทตัน ยกขนตู้สินค้าคราวละ 200 เดทเวทตัน และขนาด 1,000 เดทเวทตัน ยกขนตู้สินค้าคราวละ 100 เดทเวทตัน ได้อย่างละ 1 ลำ พร้อมกัน รวมทั้งติดตั้งปั้นจั่นหน้าท่าและปั่นจั่นจัดเรียงตู้สินค้าในลานกองเก็บตู้สินค้า เพื่อให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้สูงถึง 300,000 ทีอียูต่อปี บริเวณแอ่งจอดเรือที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างท่าเทียบเรือ A1 และ A0 พื้นที่ 43 ไร่ ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างประมาณ 24 เดือน(พ.ศ.2558-2559) ใช้งบประมาณลงทุนและแผนการใช้จ่ายเงินลงทุนของโครงการ งบประมาณลงทุน ประกอบด้วย ค่าก่อสร้างท่าเทียบเรือพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ค่าเครื่องมือยกขนหลัก (Major Equipment) และค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการ (Pre-Operating Expenses) วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,864.19 ล้านบาท

ส่วนการกำหนดอัตราค่าภาระและค่าธรรมเนียมได้กำหนดให้ใช้อัตราค่าภาระยกขนตู้สินค้าและค่าธรรมเนียมเคลื่อนย้ายตู้สินค้าที่เหมาะสมสำหรับโครงการ เท่ากับ 1,545 บาทต่อตู้ทุกขนาดและทุกสถานะ เพื่อเป็นฐานในการประมาณการรายได้ของโครงการ (ค่าจ้างภาคเอกชนในกิจกรรมการยกขนตู้สินค้าเท่ากับ 394 บาทต่อตู้ทุกขนาดและทุกสถานะ คงเหลือรายได้ของภาครัฐเท่ากับ 1,151 บาทต่อตู้ทุกขนาดและทุกสถานะ)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ