พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังเตรียม ออก พ.ร.บ.เช่าที่นา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับเกษตรกรและลดต้นทุนการผลิต
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ มอบหมายให้ไปดูแผนบริหารจัดการน้ำว่าสอดคล้องกับปัญหาภัยแล้งหรือไม่ นอกจากนี้ให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รณรงค์ให้ประชาชนจัดเตรียมแหล่งน้ำของตนเองให้เพียงพอต่อการเพาะปลูก โดยได้เร่งกระทรวงมหาดไทยให้นำพ.ร.บ.เช่าที่นาเข้าครม.ให้ทันฤดูเพาะปลูกใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ได้มอบนโยบายให้กระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ โดยจะเสนอให้นานาประเทศได้รับทราบถึงการตั้งฐานเรือลอยน้ำ และจุดลาดตระเวนทางอากาศ เพื่อเป็นตัวอย่างในการแก้ไขปัญหา พร้อมกับย้ำว่าไทยจะไม่ตั้งศูนย์พักพิงชาวโรฮิงญา แต่จะดูแลตามหลักมนุษยธรรม ขณะที่องค์การสหประชาติ(UN)จะต้องให้การสนับสนุนงบประมาณในการดูแลด้วย
และจะสั่งการให้ตรวจสอบสมาคมชาวโรฮิงญาที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยว่าก่อตั้งอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าถูกกฎหมายพร้อมประสานร่วมมือ แต่หากไม่ถูกต้องก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย พร้อมตรวจสอบความเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำชาวโรฮิงญาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและการปล่อยข่าวต่างๆ ที่เป็นด้านลบในขณะนี้หรือไม่
ส่วนการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลไม่ขัดข้อง และเห็นชอบให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มีการทำประชามติได้ โดยได้ส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ไปดำเนินการแล้ว ขณะที่ประเด็นเสนอแนะต่อการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้มีการสรุปประเด็นและส่งไปยังกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว
หมายเหตุ: สำนักงานราชบัณฑิตยสภาใช้คำว่า "โรฮีนจา"