"ที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลไหนจะกล้าเพิ่ม ตอนนี้ดูเศรษฐกิจแล้ว ผมและผู้ใหญ่คุยกันแล้วว่าถ้าขึ้นจะเป็นการซ้ำเติมประชาชน....คงจะทำเรื่องเสนอ ครม.ใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า"รมว.คลัง กล่าว
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น รมว.คลัง คาดว่า จะเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ได้ภายในอีก 2 เดือน โดยมองว่าในส่วนนี้น่าจะเป็นการช่วยสร้างรายได้จากภาษีได้มากกว่าการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ยืนยันว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้จะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะมีการขยายฐานภาษีเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่รายได้รัฐและภาษีที่จัดเก็บได้รวมกันอยู่ที่ประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท โดยในส่วนนี้จะเป็นรายได้จากภาษี 17% ของจีดีพี ซึ่งในอนาคตตั้งเป้าให้ขยายเพิ่มเป็น 20% ต่อจีดีพีเป็นอย่างน้อย
นายสมหมาย ระบุว่า ในปีงบประมาณ 60 ประเทศไทยยังจำเป็นต้องทำงบประมาณแบบขาดดุลเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้เพื่อดันเศรษฐกิจฟื้นเร็วขึ้น และไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยลงอีก การปรับลดดอกเบี้ยของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 2 ครั้งติดต่อกันในช่วงที่ผ่านมาที่มีผลทำให้เงินบาท่อนค่าลงนั้นสามารถช่วยภาคส่งออกได้ในระดับนึง อีกทั้งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยของไทยต่ำสุดในอาเซียนแล้ว จึงมองว่าไม่จำเป็นที่จะต้องปรับลดดอกเบี้ยลงอีก
"ตอนนี้ดอกเบี้ยเราต่ำสุดในอาเซียนแล้ว ถ้าลดอีกคนออมเงินจะอยู่อย่างไร การลดลง 2 ครั้งถือว่าช่วยผู้ส่งออกได้ในระดับหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องลดอีก"รมว.คลัง กล่าว