"อย่าปล่อยให้ผลประกอบการออกมาไม่ดีแล้วรอให้รัฐบาลอุดหนุนเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับสหภาพฯ ก็ขออย่าออกมาเรียกร้องเพื่อขึ้นเงินเดือน หากผลประกอบการไม่ดี ซึ่งวันนี้ได้รับข้อมูลติติงคนนั้นคนนี้ไม่ดี ซึ่งในโซเซียลมีการระบุไว้มากมาย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจต้องมีบริหารกิจการที่ดี แสวงหากำไรเพื่อลงทุนหรือขยายกิจการ และนำรายได้ส่งมายังรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น พยายามลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนของแต่ละองค์กร ซึ่งรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่ให้บริการประชาชน ต้องสร้างองค์กรให้เกิดความเข้มแข็งและดูแลประชาชนให้มีความสุข
ขณะที่การกำหนดแผนของรัฐวิสาหกิจต้องมีความชัดเจน และเป็นไปตามยุทธศาสต์ของรัฐบาล 5 ปี(2558-2563) เน้นความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน การลงทุนในรัฐวิสาหกิจต้องประเมินผลตอบแทนที่จะได้รับ ขณะที่การคัดสรรซีอีโอก็มีคณะกรรมการเข้ามาคัดสรรตามความชำนาญ ตามบัญชี และตามความเหมาะสมกับงาน
"อย่าให้เกิดเรื่องเป็นคนของใคร แต่คนที่เลือกมาแล้วต้องทำตามนโยบาย และอย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ที่สำคัญทุกคนในองค์กรต้องมีความสามัคคีกัน และหากยังไม่เลือกตั้งใคร ก็ขอให้ดำเนินการให้จบใน 3 เดือนนี้ ส่วนคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งต้องเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจ สามารถผลักดันโครงการต่างๆและสร้างองค์กรให้เข้มแข็ง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ขณะที่การกำหนดทำสัญญาก็ต้องรอบคอบ และเตรียมรับการตรวจสอบจากรัฐบาลตามข้อตกลงสัญญาคุณธรรม พร้อมระมัดระวังเรื่องการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบทุจริต ซึ่งจะขอเข้ามาตรวจสอบตั้งแต่เริ่มโครงการ ดังนั้นรัฐวิสาหกิจก็ต้องเตรียมตัวไว้
ส่วนรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหา 7 แห่งก็ต้องดูแลองค์กรไม่ให้ได้รับความเสียหาย และต้องมีการรายงานแผนการแก้ไขปัญหาของแต่ละองค์กรให้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) รับทราบในทุกๆเดือน และพร้อมให้กำลังใจทุกคนในการทำงาน และขอให้ยึดหลักเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาในทางที่ถูกต้อง
นายกฯ ระบุว่า การที่ตนเองเข้ามาทำงานในวันนี้เพื่ออนาคตของทุกคน แม้จะมีคนเกลียดบ้างแต่ก็จะไม่ไหวหวั่น เพราะทำเพื่อแผ่นดินเกิด และในการทำงานต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และขณะนี้ประชาชนมีความเดือดร้อน ซึ่งส่วนตัวเมื่อเห็นคนลำบากจะไม่สบายใจ เหตุที่บ้านเมืองไม่สงบเพราะความยากจนนั่นเอง แต่ถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคน ดังนั้นจึงต้องมาร่วมมือกันแก้ปัญหาตั้งแต่วันนี้ และวางอนาคตไว้ให้ลูกหลาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนไทยสนใจแต่เพียงว่าตนเองจะสืบทอดอำนาจหรือไม่ หวังแต่จะให้ใช้กฎหมายแรงๆ ซึ่งการใช้กฏหมายใดๆ ต้องดูกระแสสังคมภายนอกด้วย ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะลดความขัดแย้งและใช้กฏหมายเท่าที่จำเป็น ขณะที่การทำงานของตนเองทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมพ และรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเท่านั่น
"ผมถึงบอกว่าการออกกฏหมาย การออกกติกาใดๆต้องดูความมุ่งหมายของกฏหมายเสียก่อนว่า กฏหมายจะออกมาเพื่อใคร ไม่ได้ออกมาเพื่อเจ้าหน้าที่ กฏหมายต้องทำให้สังคมอยู่ร่วมกันปกติสุขเท่านั้น กฏหมายไม่ใช่ตัวชี้ชะตา รัฐธรรมนูญไม่ใช่ตัวชี้ชะตาว่าประเทศไทยจะเจริญ จะก้าวหน้าหรืออ่อนด้อย เป็นกฏระเบียบหลักของสังคม ทำอย่างไรให้กฏหมายไม่ไปสร้างความขัดแย้งอยู่ที่คนทั้งสิ้น อยู่ที่จิตสำนึกความเป็นมนุษย์เท่านั้นไม่มีทางแก้ได้ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันทำอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว