สำหรับแนวโน้มราคาทองคำประจำเดือนมิถุนายน จะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบไปในทิศทางของขาลง เนื่องจากแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้และปัญหาหนี้กรีซโดยที่กรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระคืนเงินกู้กว่า 300 ล้านดอลลาร์แก่ IMF ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นงวดแรกของการชำระคืนในช่วงเดือนมิ.ย.ที่มีมูลค่ารวมราว 1.6 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ยังมองภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ ยังมีแรงกดดันจากตัวเลข NPL ที่ยังปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งดัชนี CPI ที่ยังปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 5 ปี 8 เดือน ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังไม่สดใสมากนัก
ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงยังไม่สามารถกระตุ้นการส่งออกของไทยได้มากนัก คาดว่าการประชุมกนง.ในวันที่ 10 มิถุนายน จะมีการลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ลงสู่ 1.25% แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศยังคงให้น้ำหนักไปที่การใช้จ่ายของรัฐบาลในโครงการขนาดใหญ่ที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจของต่างประเทศนั้น มองว่า ได้รับปัจจัยกดดันจากการชำระหนี้กรีซ โดยที่กรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระคืนเงินกู้ให้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ (IMF, ECB) ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่บรรลุข้อตกลงในการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้จะสร้างความลำบากให้กับกรีซในการชำระหนี้ และบั่นทอนเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจใน ECB
ในขณะที่ทางฝั่งสหรัฐยังคงมีแรงกดดันต่อทิศทางดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งต้องรอประเมินจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาโดยเฉพาะตัวเลขด้านแรงงานและอัตราเงินเฟ้อ
กรรมการผู้จัดการ บมจ. โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) กล่าวเพิ่มว่า ปัจจัยที่ต้องจับตา ปัญหาหนี้กรีซหากกรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้เกี่ยวกับแผนปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือในงวดต่อไปซึ่งจะเพิ่มโอกาสที่กรีซผิดนัดชำระหนี้จะทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย, การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มิถุนายนนี้ หากเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำที่ 0-0.25% ต่อไป จะลดแรงกดดันการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ