สำหรับผลการศึกษาเห็นว่าแนวทางที่เหมาะสม คือ คงอัตราค่ามิเตอร์เดิม แต่ปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จในอัตราที่เหมาะสม โดยวิธีการดำเนินงานคือ ใน 6 เดือนแรก จะให้ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. รับภาระค่าเซอร์ชาร์จไปก่อน โดยในระหว่างนั้นจะมีการทบทวนเพื่อปรับโครงสร้างการบริหารการให้บริการระบบแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิใหม่ทั้งหมด เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น มีการจัดสรรเส้นทางให้เหมาะสม จัดจำนวนเที่ยววิ่งต่อวันที่เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายและต้นทุนของผู้ประกอบการ ซึ่งข้อมูลพบว่าปัจจุบันแท็กซี่สนามบินวิ่งเฉลี่ย 4-5 เที่ยวต่อวัน แต่ไม่เพียงพอต่อต้นทุน ต้องปรับการบริหารอย่างไรเพื่อเพิ่มเที่ยววิ่งต่อวัน แก้ปัญหาบัตรคิว หรือการเจรจาต่อรองแทนการใช้มิเตอร์ เป็นต้น ต้องหาวิธีการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าเจตนาของนโยบายนี้ ไม่ต้องการทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบหรือรับความเดือดร้อนแน่นอน ซึ่งจะเลือกแนวทางที่ประชาชนจ่ายค่าแท็กซี่ที่สนามบินเท่าเดิม ไม่ต้องจ่ายเพิ่มใดๆ โดยจะต้องมีการรื้อระบบการบริหารจัดการของ ทอท.ใหม่ให้เสร็จใน 6 เดือน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จแต่อย่างใด
"ตอนนี้ มีขั้นตอนการทำงานยังไม่จบ ยังสรุปไม่ได้ ตอนนี้มีแค่ผลการศึกษาจากคณะทำงาน จากนี้จะเป็นขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม จากนั้นจะเสนอมาที่ รมว.คมนาคมพิจารณา ซึ่งก่อนจะสรุปจะนำเรื่องปรึกษา รองนายกฯ ก่อนจะประกาศอย่างไร ประชาชนจะต้องกระทบน้อยที่สุด" รมว.คมนาคมระบุ