โดยกำหนดให้มีการประชุมร่วมภาคเอกชนไทย-มาเลเซีย ระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติมาเลเซีย ทั้งนี้เพื่อขยายความร่วมมือทางการค้าการลงทุนและการขนส่ง ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกการค้าระหว่างสองประเทศ รวมทั้งการสัมมนา เรื่อง "เพิ่มโอกาสการค้าการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา"ณ โรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของนักลงทุน อาทิ สิทธิประโยชน์ทางภาษี การสนับสนุนสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากภาครัฐในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งความคืบหน้าการดำเนินงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ
การจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนจังหวัดสงขลาในครั้งนี้ประกอบด้วย การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากทั้ง 2 ประเทศกว่า 300 คูหา สำหรับสินค้าไทยมาจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ อาทิ สินค้าส่งออก สินค้า OTOP สินค้าธงฟ้า สินค้าศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ สินค้าแฟรนไชส์ นอกจากนี้ยังมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในวันที่ 11 มิ.ย.58 ระหว่างผู้ประกอบการไทยและมาเลเซีย ซึ่งได้คัดเลือกผู้ประกอบการไทยที่มี ศักยภาพในการส่งออก เข้าร่วมงานประมาณ 200 ราย ขณะที่ผู้ซื้อจากมาเลเซีย ทั้งทางตอนเหนือและจากเมืองหลวงแสดงความจำนงเข้าร่วมงานกว่า 100 บริษัทแล้ว เป็นการเพิ่มช่องทางและโอกาสทางการตลาดของสินค้าและบริการในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันได้เป็นอย่างดี
รมว.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการของทั้ง 2 ฝ่าย เกิดการค้าการลงทุนระหว่างกันในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจเมืองหน้าด่านในพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็น 1 ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่รัฐบาลประกาศดำเนินการในปี 2558 รวมทั้งด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์นั้น เป็นด่านส่งออกอันดับ 1 และอันดับ 2 ของไทย ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนประมาณปีละ 3.5 แสนล้านบาท และ 1.5 แสนล้านบาท ตามลำดับ จึงจะใช้โอกาสและประโยชน์จากการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและประชาชนในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายผลักดันให้มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านล้านบาทในปี 2558
สำหรับการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียในปี 2557 มีมูลค่าทั้งสิ้น 507,655 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51 ของการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และคิดเป็นร้อยละ 62 ของการค้ารวมไทย-มาเลเซีย แยกเป็นการส่งออก 274,992 ล้านบาท การนำเข้า 232,663 ล้านบาท สำหรับในปี 2558 (มค.-เมย.) การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย มีมูลค่า 154,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการส่งออก 81,000 ล้านบาท การนำเข้า 73,000 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ เป็นต้น ในส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เทปแม่เหล็ก จานแม่เหล็กสำหรับคอมพิวเตอร์ สื่อบันทึกข้อมูล ภาพ เสียง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เป็นต้น