เงินบาทเปิด 33.68 ตลาดรอดูผลประชุม FOMC-จับตาปัญหาหนี้กรีซ

"เงินบาทแข็งค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวในลักษณะผสมผสาน มีทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) เดือน พ.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือน มิ.ย.ของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ส่งผลต่อค่าเงินสกุลหลัก เช่น เงินยูโร เงินเยน แต่ไม่มีผลต่อค่าเงินบาทโดยตรง

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินลบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 33.62-33.75 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.47 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 123.65 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1202 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1193 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.6990 บาท/ดอลลาร์
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานสถิติการเรียกเก็บเงินตามเช็คทั่วประเทศ ล่าสุด ณ เดือน พ.ค. 2558 พบว่า ปริมาณและมูลค่าการใช้เช็คลดลงต่อเนื่องจาก ช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมียอดเช็คเรียกเก็บ รวม 5.68 ล้านใบ ลดลง 2.65 แสนใบ หรือ 4.46% มูลค่ารวม 3.05 ล้านล้านบาท ลดลง 1.15 แสนล้านบาท หรือ 3.64%
• นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ค่าเงินบาทของไทยที่อ่อนค่าลงจาก 31 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 33-34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผล ดีต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เนื่องจากช่วยทำให้มูลค่าการส่งออก ของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยกระทรวงการคลังประเมินว่า ผลดีที่เงิน บาทอ่อนค่าลงปัจจุบันจะทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้น 500,000 ล้านบาท
• โบรกฯ ชี้ไทยยังไม่สิ้นสุดดอกเบี้ยขาลง คาดปีนี้อยู่ที่ 1- 1.25% แนะลงทุนหุ้นส่งออกอาหารและท่องเที่ยว พร้อมจับตาทิศทางดอกเบี้ยเฟด ด้าน "ทิสโก้" แนะช้อนหุ้นเยอรมนี มองยุโรปส่งสัญญาณฟื้นชัด หนี้กรีซเริ่มคลาย
• "วิษณุ" เผยไทม์ไลน์ทางการเมือง ชี้หาก "ประชามติร่าง รธน." ผ่าน จะมีเลือกตั้งเดือน ส.ค.59 พร้อมชี้แจงระยะเวลาสิ้นสุดแม่น้ำ 5 สาย ส่วนสภาขับเคลื่อนฯ พ้นตำแหน่งเมื่อเปิดสภาผู้แทนราษฎร
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสามปี โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 59.96 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ดี ตลอดสัปดาห์สัญญาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.4% โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.ค.ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 63.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งสัปดาห์ น้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.9%
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวก ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ได้จุดกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อทองคำ และบดบังปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาหนี้กรีซ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ปรับตัวลง 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.10% ปิดที่ 1,179.20 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับตลอดสัปดาห์ สัญญาทองเพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค.ลดลง 13.5 เซนต์ หรือ 0.85% ปิดที่ 15.825 ดอลลาร์/ออนซ์ ในวันศุกร์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค.ร่วงลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 1,096.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ส้วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย.ลดลง 4.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 738.15 ดอลลาร์/ออนซ์
• ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมออกมาในเชิงบวก ซึ่งส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และเพิ่มกระแสคาดการณ์ในตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1259 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1264 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นแตะ 1.5552 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5519 ดอลลาร์สหรัฐ, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นแตะ 123.46 เยน เทียบกับระดับ 123.40 เยนในวันก่อน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9283 ฟรังก์ จาก 0.9342 ฟรังก์ และเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.2325 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2281 ดอลลาร์แคนาดา ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7735 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7751 ดอลลาร์