ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยพบว่า มีผู้เช่านาทั่วประเทศ 380,965 ราย และผู้ให้เช่านาหรือเจ้าของที่ดิน 411,519 ราย โดยในช่วงที่ผ่านมาค่าเช่านาในภาคกลาง ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาท/ไร่/ปี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,200 บาท/ไร่/ปี ภาคเหนือ 1,800 บาท/ไร่/ปี และภาคใต้ 1,000 บาท/ไร่/ปี
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเห็นว่าจะต้องมีการปรับลดค่าเช่าดังกล่าวลงทั่วประเทศลงไม่ต่ำกว่า 200 บาท/ไร่ โดยให้คิดอัตราค่าเช่าใหม่ดังนี้ ภาคกลาง ไม่เกิน 1,500 บาท/ไร่/ปี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกิน 800-1,000 บาท/ไร่/ปี ภาคเหนือ ไม่เกิน 800-1,200 บาท/ไร่/ปี และภาคใต้ ไม่เกิน 800 บาท/ไร่/ปี ซึ่งหลังจากมีการกำหนดอัตราดังกล่าวแล้ว ให้ไปทำการเจรจากับผู้เช่านาให้ปรับลดลงมาตามที่ทางราชการกำหนด
"มีการตรวจสอบแล้ว พบว่ามีการปรับลดลงจริง ผู้ให้เช่ายอมปรับลดค่าเช่าลง ซึ่งทำให้ชาวนาสามารถลดรายจ่ายลงได้ 600-2,000 บาท/ครัวเรือน" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ดี เพื่อให้แนวทางดังกล่าวมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง กระทรวงมหาดไทยได้ขอให้จัดประชุมเกษตรอำเภอเพื่อทบทวนรายชื่อผู้เช่าและผู้ให้เช่าอยู่ตลอดเป็นระยะ ซึ่งหากพบว่าผู้ให้เช่ารายใดให้เช่าเกินกว่าที่กำหนดไว้จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ให้คณะกรรมการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบล ไปติดตามตรวจสอบ และให้มีการติดป้ายที่นาเพื่อแสดงราคาค่าเช่าให้สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนี้เป็นการขานรับนโยบายของนายกรัฐมนตรีในระหว่างที่ พ.ร.บ.เช่านายังไม่ออกมา" พล.ต.สรรเสริญ ระบุ