นอกจากนี้ การปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.การเดินอากาศใหม่นั้น จะต้องสามารถใช้บังคับได้ทั้งผู้ประกอบการภายในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นในเรื่องความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย และมาตรฐาน โดยจะมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการ 3-4 ชุด มีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยให้ความเห็น กำหนดกรอบเวลาในการดำเนินงานประมาณ 30 วัน โดยคณะกรรมการฯ จะประชุมครั้งที่ 2 ในช่วงต้นเดือนก.ค.นี้ และประชุมครั้งที่ 3 ช่วงปลายเดือนก.ค. ซึ่งคาดว่าจะสรุปรายละเอียดได้ จากนั้นจะส่งเรื่องไปที่กฤษฎีกาเพื่อตรวจสอบร่างและเนื้อหาสาระสำคัญ
จากนั้นคาดว่าคณะกรรมการฯ จะประชุมครั้งที่ 4 ประมาณกลางเดือนส.ค. เพื่อสรุปและให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ. ก่อนจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติหลักการ และเสนอต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ต่อไป โดยกรอบเวลาอาจปรับเปลี่ยนได้ขึ้นกับการพิจารณาข้อกฎหมายของคณะอนุกรรมการฯ ว่าจะมีประเด็นเพิ่มเติมและประเด็นที่กระทบต่อแผนงานหรือไม่
"เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แสนอการปรับปรุงโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ของกรมการบินพลเรือนต่อนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เพื่อพิจารณาใช้มาตรา 44 ซึ่งคาดว่าจะเสนอครม.ได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากนายกฯ เห็นชอบก็จะเดินหน้าดำเนินงานโครงสร้างด้านการบินใหม่ไปพรางก่อนจนถึงวันที่ 30 ก.ย.58 แต่หากการปรับปรุงแก้ไขพ.ร.บ.เสร็จก่อนจะยกเลิกการใช้มาตรา 44 และใช้กฎหมายนี้แทน ซึ่งตอนนี้วางแผนไว้ 2 แนวทางเพราะไม่ทราบว่า การปรับปรุงพ.ร.บ. จะใช้เวลาแค่ไหน " รมว.คมนาคมกล่าว
ด้านนายเสรี จิตต์โสภา รองอธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.การเดินอากาศฉบับปรับปรุงใหม่ จะมี 19 หมวด 494 มาตรา เป็นร่างพ.ร.บ.ที่จัดทำมาจาก 4 ส่วน คือ กฎหมายเดิมของ บพ.ที่มีการใช้บังคับที่เหมาะสมอยู่แล้ว จากร่างกฎหมายที่กฤษฎีกาได้ผ่านการพิจารณารับฟังความคิดเห็นแล้ว รวมกับภาคผนวกที่เป็นสากล โดยทั้งหมดจะเป็นรูปแบบใหม่ที่จะมีการบรรจุเฉพาะสาระสำคัญในร่างพ.ร.บ.ฉบับปรับปรุงนี้
ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะมีการกำหนดไว้ในกฎหมายรอง ซึ่งจะทำให้การปรับปรุงแก้ไขพ.ร.บ.ให้เป็นไปตามภาคผนวกของICAO สะดวกมากขึ้น คาดว่าจะใช้เวลาพัฒนาปรับปรุงประมาณ 30 วัน จะสรุปเสนอกฤษฎีกาได้