นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยหลังจากจบไตรมาส 2/58 และได้รับยอดการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ ครบทั้งหมดแล้ว ทาง ส.อ.ท.ประเมินว่าจะมีการปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศลงอีกหรือไม่ จากเดิมที่คาดว่าจะมียอดผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศ 8.5 แสนคัน เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจยังชะลอตัว และปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ ประกอบกับหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันค่อนข้างสูง ส่งผลให้มียอดปฏิเสธสินเชื่อรถยนต์ในปีนี้สูงถึง 40-50% จากระดับปกติที่ 20%
"ยอดผลิตรถยนต์รวมนั้นเรายังต้องรอประเมินก่อนว่าตัวเลขส่งออกจะมาทดแทนตัวเลขในประเทศได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันตัวเลขยอดผลิตและขายในประเทศนั้นมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ ที่ราคาสินค้าเกษตรยังตกต่ำ และการเบิกจ่ายภาครัฐฯ ยังไม่ได้ช่วยผลักดันเศรษฐกิจมากนักในช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงยอดปฏิเสธสินที่พุ่งสูงขึ้น หลังตัวเลขหนี้ครัวเรือนยังสูงอยู่" นายสุรพงษ์ กล่าว
นายสุรพงษ์ เชื่อว่า ยอดผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่หลายๆ ฝ่ายคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3/58 เป็นต้นไป จากการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะเร่งออกมาในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับแบรนด์รถยนต์รายใหญ่มีการปรับโฉมรถกระบะใหม่ทั้งหมดในรอบ 10 ปี ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลังด้วย
สำหรับแนวโน้มยอดผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกนั้น ทาง ส.อ.ท.อาจจะมีการปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ 1.2 ล้านคัน เนื่องจากยอดส่งออกรถยนต์ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถกระบะที่ประเทศไทยส่งขายไปยังตลาดทั่วโลก