โดยโครงการโซลาร์รูฟท็อปดังกล่าว ได้เปิดรับซื้อใหม่เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา จำนวน 78.63 เมกะวัตต์ พบว่าประชาชนยังให้ความสนใจไม่เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะในส่วนของกฟน. ปัจจุบันมียอดขอติดตั้งเพียง 4.9 เมกะวัตต์เท่านั้น จากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 35.69 เมกะวัตต์ ซึ่งยังเหลือโควตาที่ยังสามารถรับได้อีกมาก ส่วนทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) มียอดขอติดตั้งแล้ว 31.66 เมกะวัตต์
อนึ่ง การเปิดรับซื้อไฟฟ้าตามโครงการโซลาร์รูฟท็อป สำหรับบ้านพักอาศัย รอบใหม่ครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่การเปิดรับสมัครของโครงการโซลาร์รูฟท็อปครั้งแรกเมื่อปี 56 ตามนโยบายของรัฐบาลที่เปิดรับซื้อจำนวน 200 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาบ้านพักอาศัย 100 เมกะวัตต์ และอาคารโรงงาน 100 เมกะวัตต์ ซึ่งปรากฎว่ามีผู้มายื่นขอติดตั้งและเสนอขายไฟฟ้าในส่วนอาคารโรงงานครบทั้งหมด แต่ในส่วนของบ้านพักอาศัยมีผู้มายื่นไม่ครบ ทำให้คงเหลือเปิดในรอบใหม่จำนวน 78.69 เมกะวัตต์ดังกล่าว
สำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการในครั้งแรกนั้น มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในวันที่ 30 มิ.ย. โดยขณะนี้มีการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) รวม 117 เมกะวัตต์ แต่สามารถ COD ได้เพียง 59.04 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือยังติดปัญหาต่างๆ เช่น การขอใบอนุญาตปรับปรุงอาคาร (อ.1) จึงไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตามกำหนดได้ ซึ่งกลุ่มผู้ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว สามารถเจรจากับการไฟฟ้าเพื่อแจ้งเหตุสุดวิสัยที่ไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ร่วมโครงการภายในวันที่ 30 มิ.ย. เพราะกระทรวงพลังงานยังไม่มีนโยบายที่จะพิจารณาขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีก ไม่เช่นนั้นผู้เข้าร่วมโครงการจะถูกตัดสิทธิ์ และถูกการไฟฟ้าแจ้งบอกเลิกสัญญาดังกล่าว