ประกอบกับ ปัจจุบันไทยมีปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เกิดปรากฎการณ์แอลนิโญ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลยาวไปจนถึงหน้าแล้งในปีปีหน้า อีกทั้งป่าไม้ในประเทศถูกทำลายเป็นจำนวนมาก โดยรัฐบาลก็พยายามดูแลอย่างเต็มที่
"จะไม่กล่าวโทษว่าเป็นความผิดของใคร แต่มุ่งแก้ปัญหาในขณะนี้ให้เกิดความสงบและให้ได้ โดยไม่อยากตอบโต้ใครทั้งนั้น ทั้งที่ผ่านมาการบริหารจัดการน้ำเกิดความบกพร่อง ส่งผลให้น้ำต้นทุนในเขื่อนไม่มี เพราะมีการปล่อยน้ำมากมาหลายปีแล้ว รัฐบาลก็พยายามสะสมน้ำในเขื่อนใหม่ แต่ก็พบว่าฝนกลับตกใต้เขื่อน ไม่ตกเหนือเขื่อน ทำให้น้ำในเขื่อนไม่มี ทำให้ไม่มีน้ำเพื่อไปผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งผลต้องให้ต้องพึ่งน้ำมันและก๊าซในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น จนนำไปสู่ปัญหาด้านพลังงาน"นายกรัฐมนตรี กล่าว
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)ในวันพรุ่งนี้จะมีการพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะการขุดเจาะน้ำบาดาลที่ได้สั่งการไปแล้ว ซึ่งได้กำชับให้ไปขุดเจาะเพิ่ม แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาให้กับเกษตรทั้งหมด แต่ต้องเตรียมการป้องกันปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค ขณะที่รัฐบาลพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบการปลูกพืชของเกษตรกร โดยพร้อมสนับสนุนเงินกู้หากเกษตกรหันไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกข้าวที่ใช้น้ำมาก
ส่วนกลุ่มเกษตรกรที่เรียกร้องต้องการน้ำและไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องช่วยกันไปสร้างความเข้าใจถึงสาเหตุที่ไม่มีน้ำ และที่ผ่านมาขาดการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ซึ่งตนเองพยายามจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด พร้อมตำหนิคนที่วิจารณ์รัฐบาลรวมถึงสื่อที่ไม่เขียนถึงผลงานของรัฐบาลที่พยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่กลับให้ความสำคัญเฉพาะความขัดแย้ง และวิพากษ์วิจารณ์แต่เรื่องการปฎิรูปที่มองว่าไม่คืบหน้า
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ รวมทั้งรัฐมนตรีที่มาช่วยงานก็ขาดกำลังใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเกิดในประเทศนี้ ก็ต้องเสียใจแบบนี้ เพราะเลือกเข้ามาแก้ปัญหาเอง