นายกฯ ยอมรับผันน้ำโขงแก้ภัยแล้งคงทำไม่ได้ สั่งขุดบ่อบาดาลบรรเทาปัญหา

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 23, 2015 18:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังที่เดินทางกลับจากเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา- แม่โขง ครั้งที่ 6 ณ กรุงเนปิดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาว่า โครงการก่อสร้างระบบผันน้ำแม่น้ำโขงในฝั่งประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงน้ำหลาก ยังพบปัญหาหลายอย่าง และการก่อสร้างระบบต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี รวมถึงใช้งบประมาณที่สูง คงยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งในปีนี้ได้ทัน

ประกอบกับ ปัจจุบันไทยมีปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เกิดปรากฎการณ์แอลนิโญ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลยาวไปจนถึงหน้าแล้งในปีปีหน้า อีกทั้งป่าไม้ในประเทศถูกทำลายเป็นจำนวนมาก โดยรัฐบาลก็พยายามดูแลอย่างเต็มที่

"จะไม่กล่าวโทษว่าเป็นความผิดของใคร แต่มุ่งแก้ปัญหาในขณะนี้ให้เกิดความสงบและให้ได้ โดยไม่อยากตอบโต้ใครทั้งนั้น ทั้งที่ผ่านมาการบริหารจัดการน้ำเกิดความบกพร่อง ส่งผลให้น้ำต้นทุนในเขื่อนไม่มี เพราะมีการปล่อยน้ำมากมาหลายปีแล้ว รัฐบาลก็พยายามสะสมน้ำในเขื่อนใหม่ แต่ก็พบว่าฝนกลับตกใต้เขื่อน ไม่ตกเหนือเขื่อน ทำให้น้ำในเขื่อนไม่มี ทำให้ไม่มีน้ำเพื่อไปผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งผลต้องให้ต้องพึ่งน้ำมันและก๊าซในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น จนนำไปสู่ปัญหาด้านพลังงาน"นายกรัฐมนตรี กล่าว

ในการประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)ในวันพรุ่งนี้จะมีการพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะการขุดเจาะน้ำบาดาลที่ได้สั่งการไปแล้ว ซึ่งได้กำชับให้ไปขุดเจาะเพิ่ม แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาให้กับเกษตรทั้งหมด แต่ต้องเตรียมการป้องกันปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค ขณะที่รัฐบาลพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบการปลูกพืชของเกษตรกร โดยพร้อมสนับสนุนเงินกู้หากเกษตกรหันไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกข้าวที่ใช้น้ำมาก

ส่วนกลุ่มเกษตรกรที่เรียกร้องต้องการน้ำและไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องช่วยกันไปสร้างความเข้าใจถึงสาเหตุที่ไม่มีน้ำ และที่ผ่านมาขาดการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ซึ่งตนเองพยายามจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด พร้อมตำหนิคนที่วิจารณ์รัฐบาลรวมถึงสื่อที่ไม่เขียนถึงผลงานของรัฐบาลที่พยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่กลับให้ความสำคัญเฉพาะความขัดแย้ง และวิพากษ์วิจารณ์แต่เรื่องการปฎิรูปที่มองว่าไม่คืบหน้า

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ รวมทั้งรัฐมนตรีที่มาช่วยงานก็ขาดกำลังใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเกิดในประเทศนี้ ก็ต้องเสียใจแบบนี้ เพราะเลือกเข้ามาแก้ปัญหาเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ