ทั้งนี้ จากความร่วมมือตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปี 2552 ถึงปัจจุบัน มีอาคารภาครัฐและเอกชน ได้ส่งแบบอาคารมาให้ พพ. ตรวจประเมินแบบไปแล้วทั้งสิ้น 354 อาคาร แบ่งเป็นอาคารภาคเอกชน 53 อาคาร และอาคารภาครัฐ 301 อาคาร ซึ่งได้ทำให้เกิดศักยภาพด้านการอนุรักษ์พลังงานในอาคาร โดยเกิดผลประหยัดไฟฟ้าได้สูงถึงประมาณ 172 ล้านหน่วย คิดเป็นผลประหยัดได้ 602 ล้านบาท รวมทั้งยังได้ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุหลักของปัญหาโลกร้อนได้สูงถึง 1 แสนตันคาร์บอนอีกด้วย
นอกจากนี้ พพ. จะได้เตรียมแผนงานในส่วนของผลักดันมาตรการต่างๆ ตามกฎกระทรวง ฯ นี้ ได้แก่ ความร่วมมือกับกรมโยธิการและผังเมือง ในการแก้ไขกฎกระทรวง เพื่อให้สามารถบังคับใช้ในอาคารภาครัฐและภาคเอกชนได้อย่างเป็นรูปธรรม การดำเนินการตรวจสอบสถานภาพอาคารที่ได้รับการตรวจประเมิน และรับรองอาคารแล้ว เพื่อติดตามสถานภาพการก่อสร้างว่าเป็นไปตามที่ได้รับรองหรือไม่ รวมทั้งจะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการนำองค์ความรู้ด้านการออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน ไปเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เพิ่มเติม
นายธรรมยศ กล่าวเพิ่มว่า แนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานนั้น พพ. ได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการนำองค์ความรู้ด้านการออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน ไปเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์สถาบันการศึกษานำร่องแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง