ทั้งนี้ ภาคสาธารณะมีรายได้รวม 3,431,000 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 269,452 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.3 สาเหตุสำคัญเป็นผลจากรัฐวิสาหกิจมีรายได้ลดลง โดยเฉพาะ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการลดลงจากราคาน้ำมันที่ลดลง สำหรับด้านรายจ่ายภาคสาธารณะมีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 3,646,165 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 330,247 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.3 อันเนื่องมาจากรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลดลง ร้อยละ 13.1 โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มีรายจ่ายประจำลดลงรวม 306,908 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดุลการคลังเบื้องต้นของภาคสาธารณะ (Primary Balance) ซึ่งเป็นดุลการคลังที่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานและทิศทางของนโยบายการคลังอย่างแท้จริง (ไม่รวมรายได้และรายจ่ายดอกเบี้ย รวมทั้งการชำระคืนต้นเงินกู้) ขาดดุล 120,508 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.9 ของ GDP)
"รัฐบาลยังคงดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุล เพื่อให้การใช้จ่ายภาคสาธารณะเป็นกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป" นายกฤษฎา กล่าว
สำหรับฐานะการคลังภาคสาธารณะในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2558 (ม.ค.-มี.ค.58) มีรายได้ 1,647,592 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 116,607 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.6 และมีรายจ่าย 1,632,077 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 171,273 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.5
ทั้งนี้ ดุลการคลังภาคสาธารณะในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2558 เกินดุล 15,515 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่แล้วขาดดุล 39,151 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาดุลการคลังเบื้องต้นของภาคสาธารณะ (Primary Balance) ซึ่งเป็นดุลการคลังที่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานและทิศทางของนโยบายการคลังอย่างแท้จริง (ไม่รวมดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย รวมทั้งการชำระต้นเงินกู้) เกินดุล 48,506 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.4 ของ GDP