พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เชื่อว่า ภาวะการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้จะกลับมาขยายตัวเป็นบวก เนื่องจากจะมีการขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทั้งจีน และแอฟริกาใต้ ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงปลายปีที่คาดว่าจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ให้ราคาสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานมีราคาเพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งมีข่าวดีจากการที่สหรัฐฯ ต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร GSP สินค้าไทยออกไปอีก 4 ปี 5 เดือน
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงยืนยันเป้าหมายการส่งออกในปี 58 ไว้ที่ 1.2% ตามเดิม แม้ล่าสุดการส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-พ.ค.)จะหดตัว 4.2% และการส่งออกในเดือน พ.ค.หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ปัญหาการชำระหนี้ของกรีซที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยไปสหภาพยุโรป(EU) นั้นอาจทำให้ประเทศใน EU เพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และอาจทำให้มีผลกระทบต่อยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากไทยในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์จะเร่งส่งเสริมการหาตลาดส่งออกใหม่เพื่อทดแทนตลาด EU เพิ่มเติม แม้ในปัจจุบัน EU จะไม่ใช่ตลาดส่งออกหลักที่ทำรายได้มากเท่ากับสหรัฐ และจีนก็ตาม
"แม้อียูจะมีปัญหาจากเรื่องกรีซ แต่ตลาดหลักของเรายังเข้มแข็ง เช่น เยอรมนี แต่เราก็ไม่ประมาท เราจะหาตลาดที่ทดแทนต่อไป" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว