สำหรับมาตรการรองรับของ กฟผ. เตรียมไว้ 3 ด้าน คือ 1. ด้านระบบผลิตไฟฟ้า โดยโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 พร้อมเดินเครื่องด้วยน้ำมันดีเซล และจะเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้าภาคใต้ทั้งหมดให้พร้อมใช้งาน งดการหยุดเครื่องบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าภาคใต้ในช่วงหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ และประสานงานกับการไฟฟ้ามาเลเซียขอซื้อไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน
2. ด้านระบบส่ง ทำการตรวจสอบสายส่งและอุปกรณ์สำคัญในภาคใต้ให้พร้อมใช้งานก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ และหยุดการบำรุงรักษาระบบส่งภาคใต้ช่วงหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ และ 3.ด้านเชื้อเพลิง ได้สำรองน้ำมันให้เพียงพอเต็มความสามารถจัดเก็บก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ โดยโรงไฟฟ้ากระบี่ ได้จัดเก็บน้ำมันเตา 25.4 ล้านลิตร และโรงไฟฟ้าจะนะ ได้จัดเก็บน้ำมันดีเซล 20 ล้านลิตร ทั้งนี้ได้เตรียมทีมงานติดตามสถานการณ์ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ตลอดจนมีแผนสำรองพร้อมเข้าแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที
"กฟผ. ได้เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์การหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ JDA-A18 ไว้ทุกด้าน จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคใต้อย่างแน่นอน"รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กฟผ. การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้รณรงค์ให้ทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดพลังงาน พร้อมใช้มาตรการลดการใช้ไฟฟ้า (Demand Response : DR) จากภาคเอกชน ในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง (18.00-22.00น.) ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงเชื่อถือได้ของระบบผลิตไฟฟ้าโดยรวมของประเทศเป็นสำคัญ