อย่างไรก็ดี มองว่าหลายประเทศยังคงคิดหาแนวทางในการช่วยเหลือปัญหาหนี้ของกรีซ ซึ่งยังเชื่อมั่นว่ากรีซและเจ้าหนี้จะสามารถตกลงกันได้ในที่สุด โดยกลุ่มเจ้าหนี้อาจจะมีมาตรการเพื่อยืดหนี้ หรือลดดอกเบี้ยออกมาในช่วงหลังจากนี้ และเชื่อว่ากรีซจะไม่เบี้ยวหนี้
รมว.คลัง ยังกล่าวถึงผลกระทบกรณีที่กรีซปฏิเสธมาตรการรัดเข็มขัดตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้เพื่อแลกกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินว่า คงจะมีผลกระทบต่อตลาดเงินและตลาดทุนไทยไม่มากเท่ากับกรณีที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว ซึ่งประเด็นนี้จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่า
พร้อมมองว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของไทยไม่ใช่ภาวะเงินฝืดหรือภาวะข้าวยากหมากแพง แต่เป็นภาวะของประชากรในประเทศที่ไม่มีรายได้เพียงพอ โรงงานลดจำนวนพนักงาน ผลผลิตเกษตรราคาตกต่ำ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลพวงจากเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ที่ตกต่ำลง ไม่ใช่เป็นเพราะมาจากข้อขัดข้องของเศรษฐกิจไทยเอง
"ดังนั้นเมื่อต่างประเทศไม่สั่งซื้อสินค้าจากไทย เราจึงขายของไม่ได้ และส่งผลให้เราก็ซื้อของไม่ได้เช่นกัน ภาคส่งออกและนำเข้าที่ชะลอตัวจึงเกิดขึ้น แต่ไทยก็ยังเกินดุลการค้าทุกเดือน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหามาตรการการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และจะหารือกับส่วนราชการประมาณ 20 แห่งที่มีโครงการลงทุน และต้องเร่งใช้จ่ายเงินให้เร่งรัดเบิกจ่าย เพราะขณะนี้มีงบประมาณที่ค้างอยู่จำนวนมากตั้งแต่ปี 57 ที่ยังเหลืออีก 2 แสนล้านบาท" รมว.คลัง ระบุ
นายสมหมาย ยังกล่าวถึงกระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์คว่าไทยอาจจะต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)ว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะปัจจุบันไทยมีหนี้สาธารณะ 43% ต่อ GDP ประกอบกับทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับที่เข้มแข็ง ซึ่งเห็นว่าไทยยังมีสถานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคง ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้นักลงทุนตื่นตระหนกกับกระแสข่าวที่แชร์กันอยู่ในขณะนี้