“ศูนย์เฉพาะกิจกรมประมงเพื่อติดตามสถานการณ์เรือประมง ชาวประมง และผลกระทบ" มีหน้าที่ติดตามสถานการณ์ของเรือประมง ติดตามผลกระทบด้านต่างๆ อันสืบเนื่องจากการเคลื่อนไหวของชาวประมงในช่วงนี้ ติดตามความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าสัตว์น้ำทะเล และติดตามผลการดำเนินการออกหน่วยเคลื่อนที่บริการชาวประมงในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในขณะนี้ เปิดให้บริการผู้ประกอบการเรือประมงรายใดที่ยังไม่มีทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ ใบอนุญาตทำการประมง สมุดบันทึกการทำประมง (Log Book) บัตรประชาชน (ไต๋เรือ นายท้ายเรือ ช่างเครื่อง) ทะเบียนลูกจ้าง ใบอนุญาตทำงาน สัญญาจ้าง ใบประกาศ (นายท้าย ช่างเครื่อง) และการติดตั้ง VMS สามารถแจ้งความประสงค์ขอดำเนินการได้ภายในวันที่ 15 กรกรฎาคม 2558 โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้จากศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง (PIPO) หรือสำนักงานประมงจังหวัด
ส่วนผู้ประกอบการเรือประมงลำใดที่มีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่ยังไม่ได้มาแสดงตนตามการสำรวจประมงครั้งที่ผ่านมา (15-25 มิถุนายน 2558) ก็ขอให้ไปแสดงตนภายใน 31 กรกฎาคม 2558 ณ ศูนย์ PIPO ทั้ง 28 ศูนย์ ใน 22 จังหวัดชายทะเล ซึ่งเรื่องดังกล่าวกรมได้มอบหมายให้ประมงจังหวัดดำเนินการประสานงานกับทุกภาคส่วนเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับพี่น้องชาวประมงอย่างเต็มที่
สำหรับสถานการณ์การหยุดทำการประมงของเรือประมงในจังหวัดต่างๆ จากการติดตามตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 จนถึงปัจจุบัน พบว่า บางจังหวัดสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย มีเรือประมงบางส่วนเริ่มออกไปทำการประมงตามปกติ โดยเฉพาะช่วง 4 – 5 วันที่ผ่านมา พบมีเรือประมงมาแจ้ง Port in – Port out มากขึ้น บางส่วนส่วนก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าในรอบสัปดาห์นี้ก็จะมีเรือประมงทยอยออกไปทำการประมงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนราคาอาหารสัตว์น้ำบางจังหวัดปรับขึ้นเล็กน้อย บางจังหวัดก็ไม่ปรับขึ้น เพราะห้องเย็นทยอยนำสต๊อคอาหารทะเลออกมาจำหน่าย อีกทั้ง ยังมีเรือประมงขนาดมากกว่า 30 ตันกรอสขึ้นไป จำนวน 3,661 ลำ และเรือประมงขนาดเล็กกว่า 30 ตันกรอส จำนวน 25,313 ลำ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ยังคงออกทำการประมงการตามปกติ ประเด็นการขาดแคลนอาหารทะเลจึงไม่น่ากังวล
"การดำเนินมาตรการที่เข้มงวดของทางภาครัฐนั้น มุ่งหวังให้การปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย IUU ของประเทศไทย สำเร็จตามแนวทางที่วางไว้ นอกจากจะช่วยปลดล็อคใบเหลืองจากการประมงของไทย และสิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลไทยเกิดความสมดุลกับธรรมชาติ มีสัตว์น้ำไว้กินไว้ใช้อย่างยั่งยืน"อธิบดีกรมประมง กล่าว