นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.99/34.02 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.97/99 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทในช่วงเย็นอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากตอนเปิดตลาดในช่วงเช้า จากความผันผวนของค่าเงินยูโรที่ได้รับผลจากกรณีการเจรจาเรื่องการชำระหนี้ระหว่างกรีซกับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ และล่าสุดการเจรจราสามารถบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ แต่ปัจจัยเรื่องกรีซยังคงต้องจับตาต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.90-34.10 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.30 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 122.52/54 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1070 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1123/1125 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,490.65 เพิ่มขึ้น 5.75 จุด (+0.39%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 31,766 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,114.12 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยผลสำรวจภาวะการครองชีพของครัวเรือนล่าสุดในเดือน มิ.ย.58 ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน(KR-ECI) ลดลงมาต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ที่ระดับ 43.8 จากระดับ 45.0 ในเดือน พ.ค.58 ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ที่สะท้อนมุมมองในช่วง 3 เดือนข้างหน้า(3-month Expected KR-ECI) ลดลงมาต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ที่ระดับ 45.2 ซึ่งภาวะดังกล่าวสะท้อนว่า แม้อัตราเงินเฟ้อและต้นทุนการกู้ยืมสำหรับการขอสินเชื่อใหม่จะอยู่ในระดับต่ำ แต่ภาระค่าครองชีพที่แบกรับไว้อยู่มากแล้วในปัจจุบันยังเป็นข้อจำกัดของการตัดสินใจใช้จ่ายในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
- นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนกรกฎาคม 2558 ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากหดตัวติดต่อกัน 2 เดือน โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 47.52 จุด เพิ่มขึ้น 4.41 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน แต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด สะท้อนมุมมองราคาทองคำในประเทศฟื้นตัวแต่ปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก โดยเชื่อว่าเดือนมิถุนายนราคาทองปรับตัวลงหนักส่งผลต่อแรงซื้อ ประกอบกับความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น ทั้งกรณีหนี้กรีซและฟองสบู่ตลาดหุ้นจีนที่อาจจะส่งผลต่อความผันผวนของตลาดส่งให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่ม
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นถ้วนหน้าทั้งตลาดหุ้นไต้หวัน สิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซีย ในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ ภายหลังจากที่กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการให้ความช่วยเหลือทางการเงินได้ ซึ่งการบรรลุข้อตกลงครั้งนี้ ช่วยบรรเทาความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของกรีซ
- กลุ่มผู้นำยูโรโซนเผยอาจมีการอนุมัติเงินกู้งวดใหม่จำนวน 8.6 หมื่นล้านยูโร (9.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับกรีซ ตราบใดที่รัฐบาลของนายอเล็กซิส ซิปราสจะยังคงดำเนินการมาตรการรัดเข็มขัดในเร็วๆนี้
- บรรดาผู้นำยูโรโซนบรรลุข้อตกลงประเด็นหนี้สินกรีซอย่างเป็นเอกฉันท์ หลังการเจรจาเกือบ 17 ชั่วโมง โดยข้อตกลงดังกล่าวประกอบด้วยสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมให้ธนาคารต่างๆ ของกรีซ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตรียมหารือกันเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่ธนาคารต่างๆ ของกรีซ หลังที่ประชุมสุดยอดยูโรโซนได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับประเด็นหนี้สินของกรีซในวันนี้
- นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวในการแถลงข่าว ภายหลังบรรลุข้อตกลงประเด็นหนี้สินกรีซในวันนี้ว่า กรีซจะไม่หลุดพ้นจากการเป็นสมาชิกของยูโรโซน และนั่นเป็นสิ่งที่น่าพอใจ ขณะที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เปิดเผยว่า กรีซจะยึดมั่นในข้อตกลงที่ทำร่วมกับยูโรโซน กรีซจะต่อสู้ต่อไปเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง พร้อมกับกล่าวว่ากรีซได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตยและมีศักดิ์ศรี
- นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป กล่าวภายหลังบรรลุข้อตกลงประเด็นหนี้สินกรีซในวันนี้ว่า จะมีการใช้เงิน 2.5 หมื่นล้านยูโร เพื่อเพิ่มทุนแก่ธนาคารต่างๆ ของกรีซ