สาระสำคัญในการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติ คือ ให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้จากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) สามารถกู้เงินเพื่อนำไปใช้ปรับโครงสร้างหนี้ (รีไฟแนนซ์) หรือนำไปใช้ชำระหนี้เก่าได้ จากเดิมที่กำหนดให้สามารถกู้เงินเพื่อไปใช้เฉพาะสำหรับการต่อยอดธุรกิจเท่านั้น ไม่ได้อนุญาตไว้สำหรับการนำไปรีไฟแนนซ์ นอกจากนี้ ยังขยายสัดส่วนการค้ำประกันจากการปล่อยสินเชื่อให้ SMEs ของธนาคารพาณิชย์ หากกรณีเกิดเป็นหนี้เสีย เพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิมที่ 18% ของวงเงินสินเชื่อรวม จากการปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการ SMEs เป็นระยะเวลา 3-5 ปี โดยปีแรกจะได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่ค่าธรรมเนียมค้ำประกันรัฐบาลจะออกให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกราย ขณะที่การค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กจะลดสัดส่วนจากที่รัฐเคยค้ำประกันให้เต็ม 100% เหลือ 70% และธนาคารพาณิชย์รับภาระที่เหลือ 30% “การปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว เป็นไปตามคำร้องขอของภาคเอกชน ซึ่งรัฐบาลพิจารณาแล้วก็เห็นชอบตามที่ร้องขอมา ส่วนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ยังคงเป็นไปตามเดิม" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว