"ในครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ธนาคารต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของลูกค้า โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในระบบเศรษฐกิจ เช่น ผลกระทบจากภัยแล้ง การนำเข้าเหล็กที่เพิ่มขึ้นจากจีน ผลกระทบจากการที่จีนประกาศเพิ่มภาษีนำเข้ายางธรรมชาติที่มีส่วนผสมของยางกับสารเคมีต่างๆ ทำให้ราคารับซื้อในประเทศลดลง รวมถึงเศรษฐกิจโลกโดยรวมยังเปราะบาง โดยเฉพาะวิกฤตหนี้กรีซ ที่จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว รวมทั้งความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างผันผวน"
นายพูลพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ผลสำรวจชี้ว่านักธุรกิจคาดหวังในโครงการลงทุนภาครัฐที่ได้รับการอนุมัติดำเนินการ เช่น โครงการมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง, โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะที่ 2 และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่รางมาตรฐาน ระหว่างไทย-จีน เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด จะมีส่วนสำคัญช่วยฟื้นเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่น นอกเหนือจากปัจจัยบวกอื่นๆ ทั้งเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาก และมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ต้นทุนทางการเงินที่ลดลงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงการลดลงของต้นทุนการผลิต ตามแนวโน้มราคาน้ำมัน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์