ในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่า ผู้ว่าธปท.มองว่า ระดับอัตราแลกเปลี่ยนยังสอดคล้องกับประเทศคู่ค้า ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ทำให้ไทยได้เปรียบหรือเสียเปรียบมากนัก แต่การที่เงินบาทอ่อนค่าจะส่งผลดีในระยะสั้นต่อภาคการส่งออกของไทยที่ทำให้มีรายได้จากการส่งออกเพิ่มมากขึ้น แต่ในระยะยาว การแข่งขันด้านการส่งออกจะต้องมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาด้วย ไม่ใช่เพียงเรื่องราคาอย่างเดียว เช่น จะต้องสู้กันด้วยเรื่องความต้องการสินค้า และ คุณภาพของสินค้า เป็นต้น
"กรณีบาทอ่อนเมื่อเทียบดอลลาร์ฯนั้น ประเทศคู่ค้า คู่แข่งของเราก็อ่อนเหมือนกัน เราสอดคล้องกับเขาไม่ได้เสียเปรียบหรือได้เปรียบมากนัก แต่ในระยะสั้นบาทอ่อนจะทำให้การส่งออกมีรายได้มากขึ้น ส่วนจะขายได้มากขึ้นหรือไม่นั้นก้ต้องขึ้นกับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ไม่ใช่สู้กันแต่เรื่องราคา ต้องสู้กันด้วยความต้องการ คุณภาพสินค้า ราคาอาจไม่ใช่ปัจจัยหลัก"ผู้ว่าธปท. กล่าว
ผู้ว่าธปท. คาดว่า ธปท.จะสามารถนำเสนอแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินในระยะที่ 3 ให้กระทรวงการคลังได้ในเดือนส.ค.นี้ ซึ่งแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินฯ จะเริ่มต้นปี 58 ไปอีก 5 ปี โดยในแผนดังกล่าวประกอบด้วย หลักสำคัญ 1. เป็นมาตรการที่ช่วยส่งเสริม SMEs ให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น 2.การส่งเสริมระบบดิจิทัลแบงก์กิ้ง 3.การส่งเสริมความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และ 4.เป็นการพัฒนาบุคลากรทางการเงิน