ครม.เห็นชอบกำหนดวงเงินกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 5 พันลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 21, 2015 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ....ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับปรุงแก้ไขร่างมาตรา 22 วรรคสอง และร่างมาตรา 25 ให้เป็นไปตามหลักการที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสังเกต ตลอดจนได้เพิ่มกลไกการตรวจการบริหารกองทุนให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ต่อไป ดังนี้

1. การส่งเงินกองทุนเป็นรายได้แผ่นดินตามร่างมาตรา 22 วรรคสอง ได้กำหนดให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 โดยกำหนดให้กองทุนมีเงินและทรัพย์สินในแต่ละปีงบประมาณไม่เกิน 5 พันล้านบาท เงินและทรัพย์สินของกองทุนที่เกินจากวงเงินสูงสุดที่กำหนดไว้ ให้กองทุนนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน แต่ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจในการปรับเพิ่มวงเงินสูงสุดของกองทุนได้

"เรื่องนี้เคยผ่าน ครม.มาแล้ว และนายกรัฐมนตรีติงในเรื่องของกองทุนที่เกรงจะมีการนำเงินไปใช้เอื้อทุจริต หรือ ส่อทุจริต ซึ่งร่างพ.ร.บ.เดิมกำหนดให้คณะกรรมการฯ มีอำนาจพิจารณาเก็บเงินไว้ที่กองทุนได้ แต่กฤษฎีกาเห็นว่าควรจะกำหนดวงเงินของกองทุนสูงสุดไว้ไม่เกิน 5 พันล้านบาท หากเกินให้ส่งเข้าส่วนกลางที่คลัง" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

2. องค์ประกอบคณะกรรมการบริหารกองทุนตามร่างมาตรา 25 ได้กำหนดองค์ประกอบให้เป็นไปตามร่างเดิมที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการฤษฎีกา (คณะที่1) แล้ว

3. กำหนดกลไกการตรวจสอบการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารกองทุน ได้เพิ่มบทบัญญัติให้มีการเปิดเผยรายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ