นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทางกระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องการบินให้เป็นไปตามมาตรฐาน ICAO
ส่วนกรณีการผ่อนปรนหลังจากมีการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการตรวจค้นกระเป๋าและสัมภาระ พล.อ.อ.ประจิน ระบุว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนถึงความล่าช้าในขั้นตอนต่างๆ จากการผ่อนปรนทำให้ขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และลดเวลาในขั้นตอนต่างๆก่อนเดินทางลงมาได้ ซึ่งหากเป็นผู้โดยสารเดินทางในประเทศ ควรจะเผื่อเวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ส่วนผู้โดยสารเดินทางไปต่างประเทศ ควรเผื่อเวลาไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม รมว.คมนาคม เชื่อมั่นว่า หลังจากที่มีการเปิดให้บริการเทอร์มินอล 2 สนามบินดอนเมืองในเดือน ต.ค.นี้ จะมีส่วนช่วยการให้บริการกับผู้โดยสารมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเทอร์มินอล 2 จะมีมาตฐานสากลเหมือนสนามบินอื่นๆด้วย
ทั้งนี้ ทางสนามบินได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่สายการบินอีก 30 คน ช่วยในการเอ็กซเรย์กระเป๋าสัมภาระเฉพาะที่จะโหลดลงใต้ท้องเครื่อง (Check – in Baggage) ส่วนกระเป๋าที่ถือติดตัวขึ้นเครื่องจะทำการเอ็กซเรย์ที่จุดตรวจค้นผู้โดยสาร แต่ยังคงเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ของสายการบินเข้มงวดในการตรวจกระเป๋าสัมภาระและสติกเกอร์ก่อนเช็คอินและโหลดขึ้นเครื่องทุกครั้ง แต่หากมีการตรวจพบว่าสติกเกอร์ที่ติดกระเป๋าสัมภาระมีการชำรุดจะต้องทำการเอ็กซเรย์กระเป๋าใหม่