ไทย-เวียดนาม พร้อมขยายความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่ง-การค้าการลงทุน-สินค้าเกษตร

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 23, 2015 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไทย-เวียดนามอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ 3 เห็นพ้องต้องกันที่จะผลักดันความร่วมมือทุกด้าน หวังเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2020 พร้อมให้คำมั่นต่อกันที่จะไม่อนุญาตให้ใครใช้ประเทศของตนเองเป็นฐานต่อต้านฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

"ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามที่จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ โดยรัฐบาลนี้จะเร่งผลักดันความร่วมมือในทุกด้าน ทั้งด้านความมั่นคง การศึกษา การท่องเที่ยว การค้าการลงทุน และการเกษตร ซึ่งมีการตั้งเป้าว่า ไทยและเวียดนามจะเพิ่มการค้าการลงทุนระหว่างกันใน 5 ปีข้างหน้าเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่ขณะนี้มีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงจะเพิ่มความร่วมมือเรื่องการเพิ่มเที่ยวบินจังหวัดต่อจังหวัดขึ้นอีก ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะรับไปดำเนินการ และเร่งดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมไทย ลาว เวียดนาม อีกทั้งจะเร่งผลักดันการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้ได้ 1ล้านคนในปี 2020" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมกันนี้ไทยยังได้เชิญเวียดนามเข้าร่วมเป็นสมาพันธุ์ผู้ผลิตยางธรรมชาติ รวมถึงเพิ่มการส่งออกผลไม้ไทยไปยังเวียดนามด้วย จะมีการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทยเวียดนามให้กับแรงงานในสถานประกอบการ และทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นจะไม่อนุญาตให้บุคคลหรือองค์กรใดใช้ดินแดนของตนเป็นฐานในการดำเนินกิจกรรมใดที่ต่อต้านฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

"สัญญาใจที่ผมมีต่อท่านมีหลายเรื่องที่จะร่วมมือกันมากกว่านี้ เพื่อผลประโยชน์ต่อคนไทยและเวียดนาม...เราสัญญาจะไม่ทิ้งเพื่อน เราหรือประเทศใดไว้ข้างหลังเด็ดขาด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ด้าน นายเหวียน เติ๊น สุง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตของไทย-เวียดนาม ครบรอบ 40 ปี ในปี 2016 ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองร่วมกัน โดยเวียดนามจะเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ การค้าการลงทุนกับไทยต่อไป และหวังว่าไทยจะเป็นหุ้นส่วนการค้าอันดับแรกในเวียดนาม ซึ่งขณะนี้ไทยเข้าไปลงทุนในเวียดนามเป็นอันดับที่ 10 จาก 103 ประเทศ โดยมีผู้ประกอบการกว่า 400 ราย ซึ่งเวียดนามยืนยันจะอำนวยความสะดวกในด้านการค้าการลงทุนและธุรกิจให้ โดยทั้งสองฝ่ายจะหาความร่วมมือในด้านสัตว์น้ำ การขายข้าวและยางพาราให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และเห็นพ้องร่วมกันว่าให้ใช้สกุลเงินไทย-เวียดนามโดยตรงในการทำการค้าร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม เวียดนามขอให้ยึดหลักการรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือ การบินผ่านเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ ทะเลตะวันออก ตามที่ได้ยืนยันในถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 26 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการพูดคุยและหารือเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถหาข้อยุติของแนวทางปฏิบัติในทะเลจีนใต้ได้โดยเร็ว จากนั้นนายกรัฐมนตรีและ ครม.เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีเวียดนามและคณะด้วย

สำหรับประชุม ครม.ร่วม ไทย-เวียดนาม อย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3 เพื่อผลักดันความร่วมมือภายใต้กรอบความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และกำหนดวิสัยทัศน์ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามในการก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ของการเสริมสร้างความเข้มแข็งความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างยั่งยืน ขณะที่ประเด็นการประชุมมีการหารือความร่วมมือด้านกลาโหม การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะยาเสพติดและการค้ามนุษย์ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และความร่วมมือระดับจังหวัด เป็นต้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีไทยและเวียดนามยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลง 5 ฉบับ ประกอบด้วย (1) แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 3 (2) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (3) บันทึกข้อตกลงด้านการจ้างแรงงาน (4) บันทึกความเข้าใจเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์เมืองคู่มิตรระหว่างจังหวัดอุบลราชธานีกับจังหวัดคอนตูม เวียดนาม และ (5) บันทึกความเข้าใจเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์เมืองคู่มิตรระหว่างจังหวัดตราดกับจังหวัดลองอาน เวียดนาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ