โดยกระทรวงเกษตรฯ จะจัดตั้งจุดให้บริการตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ ซึ่งให้การรับรองสินค้าเกษตรทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ มารวมไว้ที่ "ศูนย์บริการส่งออกสินค้าเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ" ณ จุดเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรฯ จะทำการเชื่อมต่อระบบผลการตรวจสอบรับรองจากห้องปฏิบัติการ (Lab) ของแต่ละหน่วยงานให้สามารถออกใบรับรองส่งออกได้ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งโดยเฉลี่ยสามารถดำเนินการออกใบรับรองได้ประมาณ 2-3 วัน ตามแต่ชนิดสินค้าซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนให้ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรเกิดความสะดวก ลดต้นทุน และร่นระยะเวลาในการให้บริการในการขนส่งสินค้าเกษตรได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสหกรณ์หรือผู้ประกอบการรายย่อยที่จะสามารถเพิ่มช่องทางการตลาดไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน หรือในตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น
สำหรับบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด จะให้การสนับสนุนการปรับปรุงอาคารคลังสินค้าให้รองรับการจัดตั้งศูนย์บริการฯ และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบุคลากรสนับสนุนการทำงาน จากบริษัท เทคโนโลยี เอเชียแปซิฟิก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ให้เป็นผู้ดำเนินการในระบบบริหารจัดการ ระบบเครื่องมือ กำลังคนต่างๆ ให้เบ็ดเสร็จในจุดเดียว ขณะที่ด้านการส่งออกสินค้าเกษตรจะใช้อาคารคลังสินค้า(CARGO) และเครือข่ายการบินของบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด เป็นผู้ส่งดำเนินการขนส่งสินค้า ซึ่งจะรวมถึงผู้ประกอบการขนส่งรายอื่นๆ ด้วย
"หลังจากการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้แล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด จะทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ ในการจัดตั้งศูนย์บริการส่งออกสินค้าเกษตรแบบเบ็ดเสร็จให้แล้วเสร็จ โดยคาดว่าจะเสร็จประมาณ 3 เดือน นับจากทางท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองส่งมอบพื้นที่ โดยคาดว่าศูนย์ฯ ดังกล่าวน่าจะมีความพร้อมในการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณเดือนตุลาคม 2558 นี้เป็นต้นไป" นายปีติพงศ์ กล่าว
ด้านนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กล่าวว่า บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในภารกิจระดับชาติครั้งนี้ โดยเราจะเป็นผู้ปรับปรุงสถานที่ เครื่องมือหลักและระบบสารสนเทศ รวมทั้งทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และยังคงมาตรการการตรวจสอบไว้ในระดับสากล เพื่อให้การส่งออกสินค้าเกษตรเบ็ดเสร็จได้ในจุดเดียว
"ไทยแอร์เอเชียจะใช้ศักยภาพของเราในการมีเครือข่ายบินที่ครอบคลุมทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศทั่วอาเซียนและประเทศจีน รวมทั้งการมีความถี่บินต่อวันที่มากในทุกๆ เส้นทาง โดยปัจจุบันไทยแอร์เอเชียมีให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศ 27 เส้นทาง และภายในประเทศ 24 เส้นทาง มีจำนวนเที่ยวบินต่อวันรวมมากกว่า 140 เที่ยวบิน ซึ่งเราเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ด้านการส่งออกสินค้าเกษตรครั้งนี้ได้อย่างดี" นายธรรศพลฐ์ กล่าว