รมว.คมนาคม กล่าวว่า การดำเนินโครงการที่ล่าช้าออกไปส่งผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งจะได้เร่งรัดเรื่องการบริหารงบประมาณ โดยจะลงในรายละเอียดทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นการอนุมัติแผนงานโครงการว่าติดขัดล่าช้าจุดใดบ้าง เรื่องการกำหนดทีโออาร์ล่าช้าตรงไหน การจัดซื้อจัดจ้างล่าช้าตรงไหน โดยนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม จะจัดทีมงานร่วมกับหน่วยงานทำตารางกำหนดรายละเอียดของงานในแต่ละส่วน เพื่อแก้ไขได้ทุกจุด
และเมื่อการดำเนินโครงการล่าช้าออกไปจะกระทบต่อแผนงานที่จะนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งจะแก้ไขโดยการปรับแผนงานในภาพรวม ซึ่งอาจจะมีแผนสำรองไว้ ดังนั้นทุกโครงการของกระทรวงคมนาคมจะมีการตรวจสอบปัญหาอุปสรรคอยู่ตรงไหน ซึ่งขณะนี้ได้นำโครงการในความรับผิดชอบของ 2 หน่วยงานคือ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) มาตรวจสอบดูก่อนว่าติดขัดตรงจุดไหน จากนั้นจะเป็นหน่วยอื่นๆ เช่น กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า การท่าเรือ
"กรณีที่บอกว่าแผนงานโครงการล่าช้า โดยพูดถึงแผนงานในปี 2558-2559 ต้องบอกว่า หลายเรื่องไม่ได้มีงบประมาณไว้ก่อน และมีหลายเรื่องที่เห็นว่ามีความจำเป็นจึงได้เร่งขึ้นมาทำก่อน ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ เมื่อยังไม่มีการตั้งงบประมาณของโครงการไว้ก่อน พอจะเริ่มจึงทำได้ในส่วนของ งบศึกษาความเป็นไปได้ งบศึกษาสำรวจออกแบบ ดังนั้นการก่อสร้างจะไปเริ่มได้ในปี 2559 ซึ่งก็ต้องผ่านกระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ ศึกษาผลกระทบและตามมาด้วยการเวนคืนที่ดิน การขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อผ่านแล้วก็จะต้องเลือกบริษัทจึงจะก่อสร้างได้ ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่จะต้องแก้ไข ส่วนปี 2559 มั่นใจว่าความสำเร็จในการดำเนินโครงการแทบจะใกล้เคียงกับแผนงาน จะผลกระทบน้อยมากเพราะได้เตรียมการไว้ตั้งแต่ปี 2558แล้ว" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว