ส่วนการลงทุนในประเทศที่น้อยลงนั้นว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่รัฐได้ให้การส่งเสริมให้นักธุรกิจไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศเวียดนามที่มีนักลงทุนไปทำธุรกิจเป็น จำนวนมาก
สำหรับปัญหาพลังงาน รัฐบาลกำลังหาทางแก้ไขปัญหา โดยขอความร่วมมืออย่าเพิ่งโจมตีเพื่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้น ซึ่งการดำเนินการด้านพลังงานจะต้องผ่านการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อน ถ้าไม่ผ่านก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้ไว้ใจรัฐบาล รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้เกิดความเสียหายกระทบต่อประชาชนแน่นอน
"อยากจะบอกให้ประชาชนเข้าใจว่า การทำงานของรัฐบาล ถ้าทำละเอียดอย่างนี้มันไม่ง่าย ถ้าจะทำชุ่ยๆก็ทำได้ แต่ปัญหาก็ตามมาแล้ว ใครจะมาแก้ให้ผมอีก ผมพยายามระมัดระวัง แต่ก็จะเร่งให้เร็วที่สุด การที่จะมีอะไรใหม่ๆในประเทศ แน่นอนการต่อต้านมันต้องมี แต่ผมจะพยายามเคลียร์ให้ได้ ไม่ว่าจะขัดแย้งเรื่องอะไรก็พยายามจะลดราวาศอกกันบ้างได้มั้ย ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเองเลย เพื่อคนในพื้นที่ทั้งสิ้น อันไหนพอไปกันได้ให้ทำเถอะครับ ถ้าไม่ทำวันนี้วันหน้าก็เป็นปัญหาอีก" นายกฯ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังมีมติให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์วางแผนจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับผู้ที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยที่มีอยู่กว่า 4 ล้านครัวเรือน โดยเฉพาะประชากรริมคลอง ซึ่งเบื้องต้นจัดหาที่อยู่อาศัยแล้ว 1.3 หมื่นครัวเรือน โดยจะพิจารณาสร้างที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ราชพัสดุของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงคมนาคมโดยให้มีการผ่อนจ่ายและวางแผนดำเนินการในระยะ 5-10 ปี
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการพัฒนาเศรษฐกิจว่า ต้องเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรที่มีประสิธิภาพมากขึ้น รวมถึงพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า เพราะไม่สามารถพึ่งพารายได้จากการส่งออกเพียงอย่างเดียว ส่วนธุรกิจด้านท่องเที่ยวและบริการเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่กรุงเทพฯ ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมียอดนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่า 18 ล้านคน
สำหรับสถานการณ์สาธารณภัยที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทั้งภัยแล้ง อุทกภัย และวาตภัย ยืนยันว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาและเวียดนาม กลังเผชิญภาวะน้ำท่วมหนัก ซึ่งรัฐบาลจะระดมรับบริจาคเพื่อให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลังระดับแม่น้ำโขงสูงขึ้นและทำให้เกิดน้ำท่วม จึงฝากเตือนให้ทุกจังหวัดในการบริหารจัดการน้ำให้ระบายไปกักเก็บในพื้นที่เพื่อนำน้ำไปใช้ได้ เนื่องจากมีการประเมินว่า อาจจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งนั้น คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของการจ้างงานแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปวางแผนปลูกพืชในฤดูใหม่ และจ้างงานเพื่อให้เกิดรายได้โดยอยากให้มีการจ้างเหมาเป็นโครงการ เพราะจะทำให้ได้ปริมาณงานมากกว่า และเป็นการกระจายรายได้มากกว่าการจ้างเป็นรายคน