โดยการหารือครั้งนี้ ไทยได้แสดงความยินดีที่สหรัฐฯ ต่ออายุโครงการ GSP ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันในระยะยาวระหว่างภาคเอกชนไทยและสหรัฐฯ โดยเล็งเห็นว่า GSP จะเป็นกลไกขยายการค้าระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยยกระดับให้สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทยในอนาคต
นางอภิรดี ได้เชิญชวนให้สหรัฐฯ เข้ามาลงทุนในสาขาที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในการก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกไปภูมิภาคอเมริกา โดยเฉพาะรถกระบะและรถยนต์ประหยัดพลังงาน รวมทั้งใช้ไทยเป็นศูนย์กลางบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานสินค้าส่วนประกอบยานยนต์ ทั้งการผลิตและซ่อมบำรุง และสนับสนุนให้ไทยในการเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ของอาเซียน
ตลอดจนได้เชิญสหรัฐฯ ร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก และธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลาง (Gateway) การเชื่อมต่อการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะตอบสนองการค้ายุคใหม่ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ซึ่งนักธุรกิจจาก 29 เครือข่ายบริษัทสหรัฐฯ สนใจและพร้อมเดินหน้าขยายการลงทุน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอาเซียนต่อไป
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้เห็นพ้องถึงศักยภาพความพร้อมของไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน (Hub) และการบูรณาการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบห่วงโซ่อุปทานโลก ผ่านการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการจัดทำความตกลง FTA กับคู่ค้าสำคัญหลายประเทศ อาทิ ASEAN+6 (RCEP) ปากีสถาน และตุรกี นอกจากนี้ สหรัฐฯ เห็นว่าไทยมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถรองรับความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) และการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone: SEZs) ในพื้นที่ชายแดน 6 จังหวัดนำร่องภายในปี 2558
"ด้วยเหตุนี้ คณะ USABC จึงยังคงมุ่งหน้าสานต่อกิจกรรมการค้าการลงทุนกับไทยอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองของไทย จากการที่ไทยมุ่งมั่นแก้ไขปรับปรุงกฎระเบียบให้เป็นสากล และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติทางธุรกิจในโลกการค้ายุคใหม่" รมช.พาณิชย์ กล่าว
ทั้งนี้ USABC เป็นองค์กรธุรกิจของสหรัฐฯ ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเสนอแนะแนวนโยบายเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ดังนั้น ในการหารือครั้งนี้จะช่วยให้ภาครัฐสหรัฐฯ ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสนับสนุนให้ภาคเอกชนมาร่วมลงทุนในไทยและสานต่อการเป็นมหามิตรทางเศรษฐกิจกับไทยต่อไป
ปัจจุบัน สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทย โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (53-57) มีมูลค่าการค้าเฉลี่ย 35,560.43 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2557 ทั้งสองฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวมระหว่างกัน 38,471.21 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ร้อยละ 2.37 ไทยส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 23,891.61 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 14,579.60 ล้านเหรียญสหรัฐ