เนื่องจาก 1. ถึงจะลดวงเงินคุ้มครองเหลือ 25 ล้านบาทต่อบัญชีต่อรายผู้ฝากแล้วก็ตาม แต่สัดส่วนวงเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองต่อรายได้ของประชากรยังอยู่ในระดับสูงกว่าประเทศอื่นๆ กล่าวคือเมื่อพิจารณาวงเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองต่อรายได้ต่อหัวของประชากรจากข้อมูลปัจจุบันแล้ว พบว่า วงเงินคุ้มครองเงินฝากที่ 25 ล้านบาทของไทยอยู่ในระดับสูงกว่า 127.4 เท่า ของรายได้ต่อหัวของประชากรแล้ว ซึ่งเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน หรือประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ที่เพิ่งผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจอย่างสหรัฐฯ ก็ยังอยู่ในระดับสูงกว่าโดยเปรียบเทียบ อีกทั้งสัดส่วนบัญชีที่ได้รับความคุ้มครองต่อบัญชีเงินฝากทั้งหมดในระบบยังอยู่ในระดับสูงกว่า 99.95% ของบัญชีเงินฝากทั้งหมด
"ความคุ้มครองเงินฝากที่ระดับ 25 ล้านบาทต่อราย น่าจะสูงเพียงพอต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝากเงินไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะที่เสถียรภาพของระบบการเงินไทยยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ" เอกสารเผยแพร่ระบุ
2.สถานะของธนาคารพาณิชย์ ระบบการคุ้มครองเงินฝาก และการดูแลสถาบันการเงินมีความเข้มแข็งขึ้นเทียบกับอดีต ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเสถียรภาพของระบบธนาคารไทยผ่านอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญแล้ว จะพบว่าเครื่องชี้ต่างๆ สะท้อนทิศทางที่แข็งแกร่งขึ้นจากอดีต ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่อยู่ในระดับสูงกว่าอดีต สัดส่วนหนี้เสียที่ค่อนข้างต่ำแม้จะขยับขึ้นบ้างในช่วงที่ผ่านมา และเครื่องชี้อัตราการทำกำไรของธนาคารพาณิชย์ที่ทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง รวมถึงอัตราส่วนอื่นๆ อาทิ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝากเงินได้ในระยะถัดไป
ขณะเดียวกัน พัฒนาการกำกับดูแลของสถาบันการเงินของหน่วยงานกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายใต้กฎหมายการเงินหลายฉบับทั้ง พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 รวมถึง พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ.2551 ล้วนแล้วแต่มีกระบวนการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ เพื่อดูแลสถาบันการเงินให้ดำเนินงานภายใต้มาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ และมีมาตรการที่สามารถเข้าจัดการกับสถาบันการเงินที่มีปัญหาการดำเนินงานอย่างทันท่วงที ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าทางการไทยมีเครื่องมือจัดการกับปัญหาความอ่อนแอของสถาบันการเงินแต่เนิ่นๆ ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในวิกฤติปี 2540
ส่วนการเคลื่อนย้ายเงินฝากที่น่าจะเห็นในระยะต่อจากนี้ไป เชื่อว่าคงอยู่ในระดับที่ธนาคารพาณิชย์สามารถบริหารจัดการได้ ตามการออกแคมเปญเพื่อรักษาฐานลูกค้าคล้ายกับที่เคยปรากฎขึ้นในช่วงปี 2554 ที่มีการลดความคุ้มครองเงินฝากจากเต็มจำนวนเหลือ 50 ล้านบาท อีกทั้งยังมีแรงหนุนจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะที่ระบบการเงินไทยเผชิญความผันผวนจากเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จุดจับตาคงอยู่ที่การปรับตัวของธนาคารเพื่อรับมือกับปี 2559 ที่จะมีการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือเพียง 1 ล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับการบังคับใช้หลักเกณฑ์การดำรงสภาพคล่องใหม่ หรือ LCR แต่เชื่อว่า ด้วยกลยุทธ์การรักษาฐานลูกค้าและการบริหารต้นทุนดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ผนวกกับสถานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ไทยที่เข้มแข็ง และสภาพคล่องของระบบธนาคารไทยที่ยังอยู่ในระดับสูง คงเพียงพอต่อการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝากเงินไทย และสนับสนุนให้การเปลี่ยนผ่านวงเงินคุ้มครองเงินฝากเป็นไปได้อย่างราบรื่น
"การลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากจากระดับ 50 ล้านบาทต่อรายผู้ฝากต่อสถาบันการเงิน สู่ระดับ 25 ล้านบาทต่อรายในวันที่ 11 สิงหาคมนี้ คงเป็นไปได้อย่างราบรื่นจากหลายกลไกประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นวงเงินคุ้มครองเงินฝากที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเปรียบเทียบกับนานาประเทศ เสถียรภาพของสถาบันการเงินที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี การกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ที่แข็งแกร่ง ตลอดจนการปรับตัวของธนาคารพาณิชย์เพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายเงินออมของผู้ฝากเงิน ซึ่งทำให้การเปลี่ยนผ่านวงเงินคุ้มครองเป็นไปได้อย่างราบรื่น แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2558 นี้จะยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวก็ตาม" เอกสารเผยแพร่ระบุ