ทั้งนี้ สำหรับปัญหาเรื่อง Tier 3 ทางนักธุรกิจสหรัฐฯ ไม่ได้ติดใจเพราะรับรู้ถึงแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาอยู่ สิ่งที่รัฐบาลทำก็ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร แต่ไม่สามารถที่จะปล่อยให้ปัญหาค้างคาอีกต่อไป ส่วนที่มีข่าวการคว่ำบาตรไทยนั้นขึ้นอยู่กับทางการสหรัฐฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจ
ส่วนเรื่องการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค(TPP) นั้นไม่ได้มีการหารือกัน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ
สำหรับ นักธุรกิจสหรัฐที่มาเข้าพบวันนี้ ประกอบด้วย 5 คัสเตอร์ ซึ่งมีการลงทุนในประเทศไทยอยู่แล้ว และเคยพบกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ในวันนี้ได้มายืนยันว่าจะขยายการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นทั้งเรื่องรถยนต์ รถจักรยานยนต์ พลังงาน เวชภัณฑ์ยา สินค้าเพื่อสุขภาพ เกษตร ซึ่งตนเองได้ขอให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับคนไทย
"เขาไม่ห่วงเรื่องการเมือง เพราะเคยมาพบผมก่อนหน้านี้แล้ว วันนี้มาติดตามความคืบหน้าและยืนยันจะขยายการลงทุนมากขึ้น ผมขอให้เขาช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ด้วย ถ้าการลงทุนที่เข้ามาไม่สร้างมลภาวะและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เราก็ยินดี ไม่มีอะไรเสียหายก็ต้องสนับสนุนมันเป็นห่วงโซ่เศรษฐกิจ"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลจึงมีนโบายที่จะกระจายเขตเศรษฐกิจออกไปอยู่ในภูมิภาคซึ่งอาจไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่มีการสร้างโครงการคมนาคมไว้รองรับในอนาคต ทุกเรื่องที่รัฐบาลทำไปไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เตรียมไว้ให้รัฐบาลหน้า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยคนใหม่จะเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งได้ขอให้มาพบตนเองก่อน เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจก่อนที่จะไปคุยกับคนอื่น
"การเมืองก็คือการเมือง ประชาธิปไตยก็คือประชาธิปไตย ไม่ใช่จะมาทำลายมนุษยสัมพันธ์กัน เห็นใจที่ต้องแสดงท่าทีเรื่องประชาธิปไตย แต่เราต้องการแสดงให้เห็นว่าจะทำอย่างไรบ้างที่เป็นประโยชน์คิดว่าเขาเริ่มเข้าใจเรามากขึ้น"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีโครงการโรงบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ให้ถือเป็นบทเรียนที่มีความเสียหายเกิดขึ้นซึ่งคงต้องเดินหน้าต่อไป แต่เสียดายที่ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์หลายปี