"เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เอกชนไทยลงทุนด้านวิจัยและนวัตกรรมสูงขึ้น เพื่อเป็นการสร้างขีดความสามารถางการแข่งขันในระยะยาว"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ส่วนที่จ่ายไปเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้แก่หน่วยงานของภาครัฐหรือเอกชนที่อธิบดีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษาเป็นจำนวน 3 เท่าของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปจริง แต่จะต้องไม่เกินร้อยละของรายได้หรือยอดขายที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายใดในรอบระยะเวลาบัญชี ดังนี้
1. ยอดรายได้หรือยอดขายไม่เกิน 50 ล้านบาท ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ไม่เกินร้อยละ 60 ของยอดรายได้หรือยอดขาย
2. ยอดรายได้หรือยอดขายเฉพาะส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ไม่เกินร้อยละ 9 ของยอดรายได้หรือยอดขาย
3. ยอดรายได้หรือยอดขายเฉพาะส่วนที่เกิน 200 ล้านบาทให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ไม่เกิน ร้อยละ 6 ของยอดรายได้หรือยอดขาย
ทั้งนี้ สำหรับเงินได้ส่วนที่จ่ายไปเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2562