สาเหตุที่ต้องเสนอให้ครม.สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ จัดทำประชาพิจารณ์รับรองเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มก่อน เป็นเพราะเกษตรจังหวัดไม่ยอมรับรองหนังสือรับรองของเกษตรกรเล่มสีเขียว ทำให้เกษตรกรไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานการขายผลปาล์มสดให้กับโรงสกัดได้ ทั้งๆ ที่ผ่านมาตัวแทนจากกระทรวงเกษตรฯ ได้เข้าร่วมประชุมกับอคส.หลายครั้งเรื่องการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ แต่ไม่เคยแจ้งว่าต้องทำประชาคมใหม่เพื่อรับรองความเป็นเกษตรกร แต่พอเกษตรจังหวัดไม่รับรองการขึ้นทะเบียน จึงต้องมาทำใหม่ เพื่อให้เกิดความถูกต้องตามขั้นตอน
นางจินตนา กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงสกัดที่เข้าร่วมโครงการรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรแล้ว 48 แห่ง จากทั่วประเทศ 150 แห่ง ทำสัญญาแล้ว 40 แห่ง เหลือ 8 แห่งยังไม่ทำสัญญา โดยกำหนดรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% กก.ละราคา 4.20 บาท และอคส.จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงสกัดมาเก็บไว้ในราคากก.ละ 26.20 บาท ซึ่งจะขาดทุนจากการจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบในต้นทุนดังกล่าวหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ แต่หากปลายปีผลผลิตปาล์มลดลง และราคาในประเทศสูงขึ้น อคส.คงไม่ขาดทุนแต่ถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร โดยเงินที่จำหน่ายปาล์มได้จะคืนคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) ทั้งหมด