"เงินบาทปิดใกล้ระดับไฮสุดของวัน จากปัจจัยในประเทศเรื่อง GDP ที่สภาพัฒน์แถลงออกมาที่มีแนวโน้มไม่ดี ทำให้คาดการณ์ว่าในไตรมาส 3 เศรษฐกิจก็ยังทรงตัวเช่นนี้ต่อ" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.35-35.45 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124.41 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 124.41 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1094 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1094 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,408.74 จุด ลดลง 5.18 จุด, -0.37% มูลค่าการซื้อขาย 32,239.83 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,572.18 ล้านบาท(SET+MAI)
- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/58 ขยายตัว 2.8% เทียบกับ 3% ในไตรมาส 1/58 เนื่องจากเศรษฐกิจภาคนอกเกษตรชะลอลง 3.5% ส่วนภาคเกษตรหดตัว 5.9% ขณะที่ GDP ปรับฤดูกาลทรงตัวที่ 0.4% เทียบกับที่ขยายตัว 0.3% ในไตรมาสที่แล้ว
ส่วนปี 58 ปรับลดคาดการณ์เหลือโต 2.7-3.2% จากเดิมคาดโต 3-4% หลังมองว่าการส่งออกในปีนี้จะติดลบถึง -3.5% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตได้ 0.2% และการนำเข้าจะติดลบ -5.5% จากเดิมคาดเติบโต 0.8%
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมตรี ระบุว่า พอใจในภาพรวม GDP ไตรมาส 2/58 ที่โตได้ 2.8% ซึ่งต้องยอมรับว่าการส่งออกที่ติดลบเป็นปัญหาเหมือนกันทั่วโลก แต่ภาพรวมเศรษฐกิจยังถือว่าโชคดีได้ภาคท่องเที่ยวมาช่วย โดยหลังจากนี้จะต้องเร่งดำเนินนโยบายการลงทุนภาครัฐและการใช้จ่ายภาครัฐ
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ตัวเลขประมาณการปี 58 ของทางสภาพัฒน์ เป็นระดับที่ใกล้เคียงกับที่ ธปท.ประมาณการไว้ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีการปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวลง
ส่วนกรณีค่าเงินหยวน ผลกระทบจากการลดค่าเงินหยวนยังมีไม่มาก เนื่องจากค่าเงินในภูมิภาคยังเกาะกลุ่มกันไป ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืนหยุ่น โดยค่าเงินบาทยังมีความผันผวนอยู่ในระดับกลาง แต่ ยังคงติดตามสถานการณ์จีนใกล้ชิดต่อไป
- นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อาจจะต่ำกว่าในช่วงครึ่งปีแรกได้ แต่หากเทียบอัตราการขยายตัวเป็นไตรมาสต่อไตรมาสน่าจะเป็นการปรับสูงขึ้น
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB EIC) คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจเติบโตได้ต่ำกว่าระดับ 3.0% ที่ประมาณการไว้เดิม แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกจะสามารถเติบโตได้ 2.9% เท่ากับที่ประมาณการไว้เดิม และยังมีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากภาครัฐและการท่องเที่ยว แต่ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่รุมเร้า เช่น การส่งออกที่หดตัวสูงกว่าที่คาดและรายได้ภาคเกษตรลดลงจากราคาสินค้าเกษตรและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ตกต่ำตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มเติบโตได้ต่ำกว่าที่คาดไว้เดิม จากทั้งภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวกว่าที่คาดและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงส่งผลต่อต้นทุนการนำเข้าเครื่องจักร
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินในเบื้องต้นว่า เศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสที่จะประคองโมเมนตัมการฟื้นตัวแบบไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) ไว้ได้ในช่วงที่เหลือของปี โดยมีแรงหนุนจากการขยายตัวของกิจกรรมในภาคการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายเม็ดเงินของภาครัฐ ขณะที่ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง และการหยุดชะงักของการผลิตรถยนต์บางรุ่น ก็อาจทยอยลดน้อยลงตามลำดับ
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจจีนกำลังปรับตัวสู่การขยายตัวที่มั่นคงและยั่งยืนมากขึ้น แม้จะชะลอตัวลง พร้อมคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้จะชะลอตัวลงแตะ 6.8% หลังการลงทุนชะลอตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์
- -นางเซติ อัคตาร์ อาซิซ ผู้ว่าการธนาคารกลางของมาเลเซียเปิดเผยว่า เอเชียควรเตรียมพร้อมรับมือกับเงินหยวนของจีนซึ่งมีบทบาทในระดับสากลมากยิ่งขึ้น
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ปีนี้ หดตัวลง 1.6% ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่าย และการส่งออกอยู่ในภาวะซบเซา
- นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แสดงความเชื่อมั่นว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะร่วมให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบที่ 3 แก่กรีซ นอกจากนี้ นางแมร์เคลส่งสัญญาณว่าจะพิจารณาผ่อนปรนเรื่องหนี้สินเพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือดังกล่าวได้
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 2 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,350 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,121.03 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.22 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง