อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้กระทรวงฯจะไม่ปรับเป้าหมายการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้ โดยยังคงตั้งเป้าการติดลบ 3% จากปีก่อน เพราะการส่งออกภาพรวมของไทยยังไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินหยวนอ่อนค่า แต่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว
"สินค้าที่ไทยส่งออกไปจีน มีทั้งผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจีนยังคงต้องนำเข้าสินค้าวัตถุดิบจากไทยเพื่อนำไปผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก นอกจากนี้ ต้องการให้ผู้ส่งออกมองตลาดในจีนเมืองอื่นๆ ให้มากขึ้น เพราะหลายเมือง ผู้บริโภคสนใจสินค้าไทยมาก โดยเฉพาะผลไม้ ดอกกล้วยไม้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และหลายหน่วยงานที่ร่วมประชุมวันนี้ เสนอให้ไทยซื้อขายสินค้ากับจีนเป็นเงินหยวน"
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ปัจจุบันซื้อขายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสัมมนาเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าเป็นเงินหยวน เพื่อให้เพื่อผู้ส่งออกได้รับทราบ และรับรู้ถึงผลดีและผลเสียที่เกิดขึ้น
ด้านนายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องการเสนอให้ภาครัฐ ช่วยเหลือเอสเอ็มอี ให้เข้าถึงสินเชื่อ และมีสภาพคล่องในการทำธุรกิจมากขึ้น โดยอาจให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EximBank) ช่วยให้สินเชื่อเพื่อการส่งออกให้กับเอสเอ็มอีด้วย เพราะจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงระเบิด กระทบต่อความเชื่อมั่น และการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
“จีนลดค่าเงินหยวนลง ยังไม่กระทบต่อการส่งออกของไทยในปีนี้มากนัก เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจากต้นปีที่ผ่านมา 7-8% ประกอบกับ ในการซื้อขายสินค้าเพื่อการส่งออกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่นิยมใช้หยวน จึงไม่มีผลต่อการส่งออกภาพรวม แต่ยังต้องติดตามอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เพราะไทยส่งออกไปจีนมาก ดังนั้นค่าเงินหยวนอ่อนค่า อาจทำให้จีนนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้น้อยลง แต่คาดว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะไทยอาจจะลดราคาส่งออกให้ได้ เพราะผู้ส่งออกก็ได้ประโยชน์จากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงได้"
นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การลดค่าเงินหยวนของจีน เชื่อว่าจะกระทบเพียงช่วงสั้น เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาระดับหนึ่งแล้ว ในขณะที่การค้ากับจีน มีทั้งการนำเข้าและส่งออก ซึ่งการส่งออกสินค้าไทยไปจีน โดยเฉพาะสินค้าทุนยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่หอฯ ได้เสนอให้ภาคเอกชนค้าขายกับจีนเป็นเงินหยวน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งภาคเอกชนจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด