เนื่องจากทีมเศรษฐกิจเดิมของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้วางรากฐานเศรษฐกิจประเทศที่เน้นการปฏิรูป, การปรับโครงสร้างภาษี ปรับปรุงกฎระเบียบของภาครัฐ การอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่ภาคธุรกิจ ตลอดจนการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และเขตเศรษฐกิจพิเศษ จึงทำให้การเข้ามาสานต่องานของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่น่าจะดำเนินไปโดยบรรลุผลได้อย่างดี
"ตอนนี้เศรษฐกิจต้องการการฟื้นตัว จะเห็นว่าการใช้การตลาดผสมผสานกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ของดร.สมคิด ที่มีแนวทาง และมีประสบการณ์ มีมุมมองหรือการให้ข้อมูลในเชิงที่จะให้ความเชื่อมั่นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ ดร.สมคิด ถูกเลือกเข้ามาทำงาน" นายธนวรรธน์ ระบุ
พร้อมมองว่าสิ่งที่ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ควรจะดำเนินการเพื่อให้เกิดผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้รวดเร็ว ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ 1.การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในส่วนของผู้ที่มีรายได้น้อย โดยการใช้งบประมาณการก่อสร้างตามพื้นที่ต่างๆ ในภูมิภาค จะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งเกษตรกรมีรายได้เร็ว มีการสร้างงานเร็ว และมีการหางานได้ง่าย ช่วยดึงกำลังซื้อในภูมิภาคให้เพิ่มขึ้น
2.การสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่าคนมีรายได้ปานกลางขึ้นไปมีเงินแต่ยังไม่กล้าใช้ เพราะยังไม่เห็นความเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนของนโยบายรัฐบาล และไม่ค่อยไม่มั่นใจในแนวนโยบายของรัฐบาลว่าจะเคลื่อนเมื่อไรอย่างไร ดังนั้นทีมเศรษฐกิจชุดใหม่นี้ คงต้องเน้นการออกนโยบายเศรษฐกิจที่มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักธุรกิจ เพื่อให้การจับจ่ายใช้สอยและการลงทุนเคลื่อนตัวได้
3.การสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจกับต่างชาติให้มากขึ้นในเรื่องนโยบายของรัฐบาล เพื่อทำให้ต่างชาติมั่นใจในการซื้อสินค้า สร้างตลาดการส่งออก ตลาดท่องเที่ยว และการลงทุนจากต่างชาติให้มากขึ้น โดยเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ทีมเศรษฐกิจคงจะต้องทำให้ระยะเวลาอันใกล้
"ที่ ดร.สมคิด จัดทีมมาทำงานสานต่อจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในนโยบายใหม่ๆ หรือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศ และการออกนโยบายในเชิงที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ ต่อประชาชน ต่อนักธุรกิจ และชาวต่างชาติ ก็เชื่อว่าจะมาทำงานในจุดนี้ได้บรรลุผลอย่างรวดเร็ว" นายธนวรรธน์ กล่าว