สำหรับความคืบหน้าในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ขณะนี้งานโยธาเสร็จ 100% แล้ว โดยอยู่ระหว่างตรวจรับมอบงานก่อสร้างอาคารที่จอดรถและศูนย์ซ่อมบำรุง(สัญญาที่ 3) ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ และบางซื่อ-บางแค การก่อสร้างงานโยธาคืบหน้าประมาณ 65% โดยจะทยอยเสร็จตั้งแต่ปี 2561-2562 ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ การก่อสร้างคืบหน้า 61% คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2559-ต้นปี 2560
ส่วนการเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนั้นหลังจากคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) มีมติไม่เห็นด้วยกับการเจรจาโดยตรงกับ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL) ดังนั้นคณะกรรมการ รฟม.ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธาน ได้พิจารณาและยืนยันเรื่องการเดินรถต่อเนื่อง และแนวทางที่เป็นไปได้ในการร่วมทุนแบบ PPP Net Cost ซึ่งจะให้เอกชนรับความเสี่ยงแทนภาครัฐ โดยจะเสนอรูปแบบและแนวทางดังกล่าวไปยังกระทรวงคมนาคมและ ครม.ต่อไป นอกจากนี้ยังเห็นว่า เมื่อสภาพัฒน์ฯ มีความเห็นดังกล่าวเท่ากับว่าเรื่องการดำเนินโครงการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2535 คงเดินต่อไปไม่ได้
สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตนั้น เนื่องจากมีประเด็นการก่อสร้างที่บริเวณแยกรัชโยธิน ทำให้เลื่อนการเริ่มต้นงานในเดือน มิ.ย.ออกมาเป็นวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทาง รฟม.ได้มีหนังสือถึงกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อขอให้ยืนยันรูปแบบก่อสร้างที่ทาง กทม.เห็นชอบว่าจะให้ใช้แนวทางเดิมที่มีการออกแบบไว้คือ ต้องทุบสะพานข้ามแยกรัชโยธิน และก่อสร้างอุโมงค์ กับแนวทางคงสะพานข้ามแยกรัชโยธินไว้เหมือนเดิม ซึ่งจะต้องมีการปรับแบบก่อสร้างใหม่ โดยยังพอมีเวลาในการรอคำตอบจาก กทม.ประมาณ 2 เดือน ซึ่งไม่ว่าจะเลือกแนวทางใด รฟม.พร้อมดำเนินการ โดยในระหว่างนี้ผู้รับเหมาได้เริ่มลงพื้นที่เพื่อทำการรื้อย้ายสาธารณูปโภคไปก่อน
นายพีระยุทธ กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และสายสีม่วงใต้ เส้นทาง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ คาดว่าจะประกวดราคาได้ปลายปี 2558-ต้นปี 2559 ส่วนสายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว- สำโรง คาดว่าจะเปิดประมูลได้กลางปี-ปลายปี 2559 ซึ่งถือเป็นรถไฟฟ้า 4 สายที่อยู่ในแผนการลงทุน