ทั้งนี้ ส.อ.ท. จะเสนอให้ภาครัฐ เร่งเข้ามาดูแลเรื่องของราคาสินค้าเกษตรที่ยังตกต่ำอยู่ และเรื่องของการปรับโครงสร้างภาษี SMEs อาทิ รายได้ไม่เกิน 50 ล้านบาท เสียภาษี 5% รายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาท เสียภาษี 10% และรายได้เกิน 200 ล้านบาท เสียภาษี 15% เพื่อให้ประกอบการ SMEs เข้าสู่ระบบมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนกว่า 80% ที่ประกอบกิจการโดยไม่เสียภาษี และอยากให้ช่วย SMEs ในเรื่องของแหล่งเงินทุนที่ปัจจุบันยังเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ค่อนข้างยาก
นอกจากนี้ ยังต้องการให้ภาครัฐเข้ามาดูแลเกี่ยวกับสินค้าราคาเกษตรที่ยักตกต่ำอยู่ โดยมองเป็นวิธีการเข้าอุดหนุนสินค้าเกษตรที่สำคัญ โดยให้ทำเป็นมาตรการชั่วคราว เพื่อผลักดันสินค้าเกษตร เนื่องจากเกษตรกรเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของประเทศ เนื่องจากกลุ่มเกษตรกรเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ ที่มีการจับจ่ายใช้สอยอย่างรวดเร็ว
สำหรับข้อเสนอประเด็นการส่งออก ไทยควรเร่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก หรือทีมไทยแลนด์ เนื่องจากปัญหาการส่งออกขณะนี้ไม่สามารถพึ่งกระทรวงพาณิชย์เพียงหน่วยงานเดียว รวมทั้งควรขยายการลงนาม FTA กับประเทศอื่นๆ เช่น ปากีสถาน อินเดีย ตุรกี หลังจากประเทศไทยไม่สามารถลงนาม FTA กับกลุ่มยุโรปได้ โดยเฉพาะประเทศตุรกี เพื่อเป็นประตูการค้าส่งสินค้าไปยังกลุ่มยุโรป และการแก้ปัญหาการค้าชายแดน กับกลุ่มประเทศเวียดนาม กัมพูชา เมียมา ลาว (CLMV) เนื่องจากขณะนี้สินค้ายังติดค้างด่านหลายวัน ทำให้เสียโอกาสในการส่งออก หากแก้ปัญหาดังกล่าวได้ได้จะช่วยส่งออกสินค้าชายแดนได้มากขึ้น
"ป้จจุบันความเชื่อมั่นทั่วโลกต่อเศรษฐกิจไม่มี สะท้อนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ดิ่งลงติดต่อกันหลายวัน แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังถือว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแรง แต่ภาครัฐฯต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเร่งโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยผู้ประกอบการในการหาแหล่งเงินทุน รวมไปถึงราคาสินค้าเกษตรที่ปัจจุบันยังตกต่ำอยู่ เพื่อช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศโดยเฉพาะในส่วนของรากหญ้า ที่เป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของประเทศ"นายสุพันธุ์ กล่าว